Page 24 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 24
17
กฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งพลเมืองยังเป็นสิ่งจำเป็นแก่รัฐในด้านการป้องกันและด้านการสร้างสรรค์ความ
เจริญรุ่งเรืองในทางเศรษฐกิจ ส่วนบุคคลก็ย่อมมีความประสงค์ที่จะมีแหล่งที่อยู่อาศัยและให้สิทธิ ให้ความ
คุ้มครองแก่ตน นอกจากนี้สัญชาติยังเป็นความจำเป็นระหว่างประเทศ ที่รัฐจะวางกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศขึ้น
17
ผ่านจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
ตามกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไปของนานาประเทศ จะยอมรับการออกกฎหมายว่าด้วยสัญชาติของ
ตนตกอยู่ภายในขอบเขตอำนาจภายในของรัฐโดยแท้ รัฐจึงมีเสรีภาพในการกำหนดการได้สัญชาติของตนหรือ
การเสียสัญชาติของตน ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศไม่มีข้อกำหนดให้รัฐต้องใช้ข้อเท็จจริงใดในการกำหนดการ
ได้สัญชาติของตนหรือการเสียสัญชาติของตน ทั้งนี้รัฐจะกำหนดให้สัญชาติของตนโดยใช้ข้อเท็จจริงที่แสดงถึง
ความสัมพันธ์อย่างแท้จริง (Genuine Link) ระหว่างรัฐผู้ให้สัญชาติและเอกชนผู้ได้รับสัญชาติ ซึ่งในทางปฏิบัติ
รัฐมักจะใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดสัญชาติมีอยู่ 2 หลัก คือ หลักสืบสายโลหิต (Jus sanguinis)คือการได้
สัญชาติของบุคคลขึ้นอยู่กับสัญชาติของบิดามารดาและหลักดินแดน (Jus soli ) คือ รัฐเจ้าของดินแดนจะเป็นผู้
พิจารณาให้สัญชาติแก่บุคคลที่เกิดในดินแดนของรัฐดังกล่าวภายใต้หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กฎหมายได้
กำหนด
18
2.2.2 หลักการได้มาซึ่งสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508
ในอดีตก่อนพ.ศ.2454 ประเทศไทยไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายสัญชาติไทย ทำให้ความเป็นไทย
ไม่ได้กะเกณฑ์ด้วยสัญชาติ เนื่องจากในยุคนั้นแนวคิดว่าด้วยสัญชาติยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่ความเป็นไทยวัดด้วย
ความผูกพันที่บุคคลมีอยู่ต่อชาติไทย โดยผูกพันหรือมีความเป็นอยู่ร่วมกันภายใต้วัฒนธรรมเดียวกัน ศาสนา
เดียวกัน เชื้อชาติเดียวกัน การยอมรับนับถือค่านิยมในสังคมอย่างเดียวกัน ย่อมเป็นเครื่องมือที่จะชี้ความเป็น
ไทยที่แตกต่างไปจากคนต่างด้าวได้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติแปลงสัญชาติและพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 ขึ้น
ซึ่งต่อมาก็ได้มีการยกเลิก โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมดังนี้
19
พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ซึ่งต่อมาในปีพ.ศ.2515 ก็ได้มีประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 337
เกิดขึ้น เพื่อถอนสัญชาติไทยของบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามา
อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวที่เข้า
มาในอาณาจักรไทยโดยได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่เพียงชั่วคราว หรือเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย บุคคลเหล่านี้แม้
17 กมล สนธิเกาตริน, คำอธิบายกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล, พิมพ์ครั้งที่ 7 (กรุงเทพมหานคร: นิติบรรณาการ,
2539) อ้างใน สุวิมล อิสริยานนท์, แนวทางในการคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายของคนไร้สัญชาติไทย : ศึกษากรณีการให้สิทธิและ
สถานภาพทางสัญชาติแก่คนไร้รากเหง้า, (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร
ศาสตร์, 2558), น.7-34
18 พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร, คำอธิบายกฎหมายสัญชาติไทย, พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพฯ: วิญญูชน, 2548), น.40
19 ชุมพร ปัจจุสานนท์, กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล เล่ม 1, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพฯ:วิญญูชน, 2549), น.52