Page 187 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 187
กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า การขับเคลื่อนนโยบาย มาตรา ๓๗ และมาตรา ๔๓ แห่งร่างพระราชบัญญัตินี้
พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ปัจจุบัน มีลักษณะเป็นการเปิดช่องในการโอนอ�านาจตามกฎหมายอื่น 1
มีกลไกพิเศษซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการ เพิ่มเติม และมีอ�านาจในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือ
ด�าเนินงานได้ อาทิ ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๒/๒๕๖๐ เรื่อง เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุมัติ อนุญาต 2
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ลงวันที่ ซึ่งอาจจะขัดหรือแย้งกับความเห็นขององค์กรตามกฎหมาย
๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๒๘/๒๕๖๐ เรื่อง เฉพาะอันอาจเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน 3
มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ทั้งการใช้อ�านาจในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติม
พิเศษภาคตะวันออก ลงวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ หลักเกณฑ์ตามกฎหมายเฉพาะ ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการ
ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๔๗/๒๕๖๐ เรื่อง ข้อก�าหนดการใช้ คุ้มครองความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของประชาชน 4
ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จะต้องค�านึงถึงหลักนิติธรรม และจะต้องมีกลไกควบคุม
ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ กฎหมายว่าด้วยการ นิคม การใช้ดุลพินิจในการด�าเนินการตามบทบัญญัติดังกล่าว 5
อุตสาหกรรม กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและ
กฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ มีกลไกการตรวจสอบเพื่อคุ้มครองต่อประโยชน์สาธารณะ
ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนและสนับสนุนการพัฒนาระเบียง
เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกไปได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้าน ประเด็นที่ ๓ การจัดท�าผังเมือง เห็นว่าการเร่งรัด
การพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการ การด�าเนินการเพื่อจัดท�าแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หากจ�าเป็นที่จะต้องมีการตรา ดังกล่าวโดยยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายผังเมือง อาจกระทบ
พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... ต่อหลักการที่ก�าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คงมีปัญหาข้อควรพิจารณา ดังนี้ พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๒ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในประเด็นความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
ประเด็นที่ ๑ กระบวนการมีส่วนร่วมในการประเมินผล และสิทธิในการพัฒนา ซึ่งรับรองสิทธิของบุคคลในการ
กระทบของกฎหมาย เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับการกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม
ได้ด�าเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องรวม ๗ ครั้ง
เป็นการรับฟังความคิดเห็นด้วยการจัดประชุมและ ประเด็นที่ ๔ การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
มีหนังสือสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๖ ครั้ง เพื่อเกษตรกรรม เห็นว่า การที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
อีก ๑ ครั้ง เป็นการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ได้ให้อ�านาจในการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
หรือผู้อาจได้รับผลกระทบจากกฎหมายผ่านระบบเทคโนโลยี เพื่อเกษตรกรรม จึงอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ
สารสนเทศของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทางอาชีพและการด�ารงชีวิตของเกษตรกรผู้ที่ได้รับสิทธิ
ซึ่งมีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพียง ๔ คนเท่านั้น ในการใช้ประโยชน์ อันขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย
จึงมีข้อสังเกตว่าการเปิดให้รับฟังความคิดเห็นจาก ว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และไม่สอดคล้อง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้อาจได้รับผลกระทบจากกฎหมาย กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
ด้วยวิธีการดังกล่าวอาจจะไม่กว้างขวางเพียงพอที่จะให้ มาตรา ๗๒ (๑) และ (๒)
ผู้อาจได้รับผลกระทบรับทราบข้อมูลเพื่อแสดงความคิดเห็น
และไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามมาตรา ๔๓ ของ กสม. จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะต่อรัฐสภาและ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ คณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ซึ่งให้การรับรองบุคคลและชุมชนในการมีส่วนร่วมในการ พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗ (๓) ดังนี้
จัดการ บ�ารุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม (๑) รัฐสภา ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา
ร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ....
ประเด็นที่ ๒ หลักประกันด้านนิติธรรมในการคุ้มครองสิทธิ และการพิจารณาวาระ ๒ และ ๓ ควรจัดให้มีการรับฟัง
และเสรีภาพของประชาชน เห็นว่า การที่บทบัญญัติ ความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้อาจได้รับ
185