Page 182 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 182

เป็นที่สาธารณะ  ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางส�าหรับใช้  (Common property) ในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร
            เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือสงวนไว้เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน   ในพื้นที่ป่าไม้โดยไม่ต้องออกเอกสารสิทธิ
            กสม. พบว่ามีปัญหาแนวเขตไม่ชัดเจน เนื่องจากการสงวน
            หวงห้ามในอดีตก�าหนดแต่เพียงแนวเขตคร่าว ๆ ไม่มี      ผลการด�าเนินการ  พบว่าไม่ได้รับการตอบรับ
            การรังวัดพื้นที่และจัดท�าแผนที่ไว้               ที่ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่าใดนัก  กล่าวคือ
                                                             รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติการ
                ในระหว่างปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ กสม. ชุดที่ ๓ ได้จัดท�า  แทนนายกรัฐมนตรี  มีค�าสั่งมอบหมายให้กระทรวง

            ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลัก
            คุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการแก้ไขปรับปรุง ในการน�าข้อเสนอแนะของ กสม. ไปพิจารณาร่วมกับ
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
            กฎหมาย  กฎ  ระเบียบ  หรือค�าสั่งให้สอดคล้องกับ  กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง
            หลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ตามหน้าที่และอ�านาจที่รับรองไว้ มหาดไทย  ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ  ส�านักงาน
            ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐   คณะกรรมการกฤษฎีกา กองอ�านวยการรักษาความมั่นคง
            มาตรา ๒๔๗ (๓) และ พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖ (๓)   ภายในราชอาณาจักรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้น
            ดังนี้                                           ส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือลงวันที่
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
                                                             ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐ แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผล
            ๑)  ข้อเสนอแนะ  ที่  ๑/๒๕๖๐  เพื่อแก้ไขปัญหา  การพิจารณาและผลการด�าเนินการต่อข้อเสนอแนะ

            เขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติกับ ดังกล่าวของ กสม. ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
            ที่ดินเอกชนทับซ้อนกัน และกรณีราษฎรได้รับความ และสิ่งแวดล้อมเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว
            เดือดร้อนจากมาตรการทวงคืนผืนป่า ตามคำาสั่ง โดยไม่ได้พิจารณาผลสรุปของกระทรวงดังกล่าวว่า
            คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๔/๒๕๕๗ ลงวันที่   ได้ด�าเนินการให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของ กสม.
            ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ และที่ ๖๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๗  อย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่ หรือมีความจ�าเป็นที่ไม่อาจ
            มิถุนายน ๒๕๕๗                                    ด�าเนินการได้ หรือต้องใช้ระยะเวลาในการด�าเนินการ
                เป็นเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน   อย่างใด ๆ ซึ่งไม่เป็นไปตามบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

            กรณีราษฎรจากหลายพื้นที่กล่าวอ้างว่าพื้นที่ป่าไม้  แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา
            ตามกฎหมาย พื้นที่อนุรักษ์ และที่ดินที่ประชาชนถือครอง ๒๔๗ วรรคสอง เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑ กสม.
            ทับซ้อนกัน และกล่าวอ้างว่ามีการจับกุมด�าเนินคดีและ  จึงได้มีหนังสือขอให้คณะรัฐมนตรีทบทวนมติเมื่อวันที่
            การขับไล่ราษฎรโดยไม่ได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเบื้องต้น   ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐ และพิจารณาการด�าเนินการตาม
            ซึ่ง กสม. เสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔   ข้อเสนอแนะ ที่ ๑/๒๕๖๐ ของ กสม. ให้เป็นไปตาม
            ให้ก�าหนดพื้นที่ป่าตามสภาพความเป็นจริง แก้ไขกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
            ปิดปากในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗  มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง
            เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิน�าพยานหลักฐานพิสูจน์ว่า
            ถือครองพื้นที่ก่อนก�าหนดเขตพื้นที่อนุรักษ์ และมิได้  อย่างไรก็ตาม กสม. ก็ยังไม่ได้รับแจ้งผลการด�าเนินการ
            บุกรุกพื้นที่ และแก้ไขพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ   จากคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีมิได้แจ้งผลการด�าเนินการ

            พ.ศ. ๒๕๐๔ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า  และไม่ได้แจ้งเหตุผลใด ๆ ภายในเวลาอันสมควร กสม.
            พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้มีบทบัญญัติที่สามารถน�าพยานหลักฐาน  ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการ
            มาพิสูจน์การถือครองพื้นที่ได้เช่นเดียวกัน  รวมถึง คุ้มครองสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ ๓๘/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๔
            เสนอแนะให้ภาครัฐพิสูจน์สิทธิในที่ดินตามเกณฑ์ที่เป็น พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เห็นชอบให้เผยแพร่ข้อเสนอแนะ
            มาตรฐานเดียวกันก่อนไล่รื้อและด�าเนินคดีอาญา และควร ที่ ๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๐ ต่อสื่อมวลชน
            สนับสนุนสิทธิเชิงกลุ่ม (Collective Right) กรรมสิทธิ์ร่วม  ทางเว็บไซต์ และสื่อสาธารณะอื่น ๆ ของ ส�านักงาน กสม.
                                                             ต่อไป






       180
   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187