Page 191 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 191
จ�าเป็นเร่งด่วน รวมทั้งติดตามการปฏิบัติตามแผนงานดัง ในการด�าเนินการด้านส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กล่าวอย่างใกล้ชิดจนกว่าโครงการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ในประเด็นดังกล่าว รวมทั้งอาจน�ามาสู่การก�าหนดแนวทาง 1
ในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้ถูกละเมิด
(๓) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และ สิทธิมนุษยชนในประเด็นนี้ โดยมีผลการศึกษาวิจัยที่ส�าคัญ 2
บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จ�ากัด ควรตรวจสอบ ได้แก่
และแก้ไขจุดอันตรายและจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ • ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและ 3
บนท้องถนนตลอดแนวการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เช่น สิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
การวางอุปกรณ์ เครื่องมือก่อสร้าง การปรับพื้นผิวจราจร ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ที่ช�ารุด รวมถึงบริเวณที่เกิดปัญหาน�้าท่วมขังบนถนน • สิทธิของชุมชนชาวกะเหรี่ยง (ปกาเกอญอ) กับ 4
ในระหว่างการก่อสร้างตลอดแนวโครงการก่อสร้าง การด�าเนินเขตวัฒนธรรมพิเศษไร่หมุนเวียน
รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี หรือกิจกรรม ในพื้นที่ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาข้อพิพาท 5
อื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อการสัญจร และหากพบปัญหา กรณีที่ดินท�ากิน และที่อยู่อาศัยของชุมชน
ต้องเร่งด�าเนินการแก้ไขโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน กะเหรี่ยงในพื้นที่ป่าภาคเหนือ
ผู้รับผิดชอบ อาทิ กองบังคับการต�ารวจจราจร สถานี • ความเชื่อมโยงระหว่างสิทธิชุมชนกับทรัพยากร
ต�ารวจนครบาลในเขตพื้นที่ ส�านักงานเขตในสังกัด ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้รัฐธรรมนูญ
กรุงเทพมหานคร แขวงการทางของกรมทางหลวง และเขต แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐:
เทศบาลของจังหวัดนนทบุรี เป็นต้น โดยการด�าเนินการ องค์ความรู้และแนวปฏิบัติในการรับรอง
ดังกล่าวต้องควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน สิทธิชุมชน
ได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงและทันต่อสถานการณ์
เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนการเดินทาง ในขณะเดียวกัน ๔.๒ ธุรกิจและสิทธิมนุษยชน
ควรเพิ่มช่องทางการสื่อสารแบบสองทาง (Two-ways
Communication) เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเรื่อง ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเกิดจากการ
ร้องเรียนหรือแจ้งเหตุกรณีประชาชนพบเห็นปัญหาหรือ ด�าเนินธุรกิจเป็นประเด็นส�าคัญที่ก�าลังได้รับความสนใจ
ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้าง รวมถึงแจ้งเหตุกรณี จากประชาคมโลก ไม่เพียงการด�าเนินธุรกิจของบรรษัท
ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที ข้ามชาติที่ประกอบธุรกิจร่วมกับคู่ค้าและผู้ผลิตทั่วโลก
แต่รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่และผู้ประกอบการรายย่อย
(๔) กระทรวงคมนาคม ควรมอบหมายให้หน่วยงาน ภายในประเทศจะส่งผลอย่างมีนัยยะส�าคัญต่อเศรษฐกิจ ผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ
ในสังกัดน�าประเด็นปัญหาและข้อค้นพบจากการด�าเนิน สังคม และการพัฒนาประเทศ การประกอบธุรกิจโดยขาด
โครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในระหว่างการ ความรับผิดชอบและไม่ค�านึงถึงผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
ก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน อาจน�ามาซึ่งการพัฒนาที่ขาดความยั่งยืน ส่งผลกระทบ
และเกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง ดังเช่นกรณีโครงการ หลายประการ อาทิ การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ไปเป็นข้อมูลประกอบการ สิ่งแวดล้อม ทรัพยากร ความเสมอภาคทางเพศ แรงงาน
วางแผนหรือก�าหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาปัญหา และการค้ามนุษย์ เป็นต้น สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ให้แก่ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการ ตามปฏิญญาเอดินเบอระ (Edinburgh Declaration)
ของรัฐในอนาคตต่อไป มีบทบาทส�าคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการปฏิบัติตาม
หลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับ
นอกจากนี้ กสม. ชุดที่ ๓ ได้สนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัย สิทธิมนุษยชน (หลักการชี้แนะ UNGPs) ทั้งในระดับชาติ
เกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นธรรม และระดับภูมิภาค กสม. ชุดที่ ๓ จึงให้ความส�าคัญ
การมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ต่อประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และด�าเนินการ
สิ่งแวดล้อม รวมถึงที่ดินและป่าไม้ และสิทธิชุมชน เพื่อเผยแพร่และขับเคลื่อนการปฏิบัติตามหลักการ
เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และพัฒนาความเข้มแข็ง ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการด�าเนินโครงการและ
189