Page 75 - คู่มือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และรายการตรวจสอบของภาคธุรกิจ
P. 75

กรอบการท�า HRDD      7






                  ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค จึงค่อยๆ ย้ายเข้าสู่วิธีแบบ “ตั้งอยู่บน
            ความเป็นพันธมิตร” และกลไกสร้างความร่วมมือกันกับคู่ค้ามากขึ้น กลไกเหล่านี้เป็นส่วนเสริมหรือในบางกรณีก็ถูกใช้
 4  การติดตามผลผ่านความสัมพันธ์ทางธุรกิจ  แทนที่กลไกตรวจสอบแบบดั้งเดิม และมักจะมีองค์ประกอบต่อไปนี้






    เมื่อพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทมองเห็นว่า บริษัทกำาลังติดตามผลประกอบการด้านสิทธิมนุษยชนของพวกเขา   •  สนับสนุนหรือวิเคราะห์รากสาเหตุของผลกระทบสำาคัญๆ เพื่อทดสอบข้อสรุปจากการตรวจสอบ
 พวกเขาก็จะรับรู้ว่าเงื่อนไขตามสัญญาหรือข้อตกลงหรือจรรยาบรรณนั้นไม่ได้ดูดีแต่บนกระดาษเท่านั้น แต่เป็นส่วนสำาคัญ  และมองหาปัญหาที่ซ่อนอยู่ลึกกว่า
 ของวิธีที่บริษัทตั้งใจจะดำาเนินธุรกิจ
                    •  ไม่เพียงแต่ประเมินว่าคู่ค้าทำาตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลในแง่ “ผลลัพธ์” อย่างไร แต่ยังประเมิน

                       คุณภาพของระบบการจัดการแบบมองไปข้างหน้าของพวกเขา ในการระบุและจัดการกับความเสี่ยง
 บทบาทของสัญญา
                       ด้านสิทธิมนุษยชนของตัวเอง
                    •  แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของบริษัทเองในการจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งบทเรียน
    การติดตามเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาเป็นวิธีที่น่าจะมีประสิทธิผลในการติดตามดูว่า พันธมิตรทางธุรกิจกำาลังจัดการ
 ความเสี่ยงของผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนได้ดีหรือไม่เพียงใด สัญญาร่วมทุนอาจใส่เงื่อนไขว่าจะมีการติดตามและ  เรื่องตัวชี้วัดและระบบติดตามผลที่มีประสิทธิผล

 รายงานผลประกอบการหลายด้านต่อผู้ร่วมทุนทั้งสองฝ่าย รวมทั้งด้านสิทธิมนุษยชนด้วย สัญญาที่ทำากับคู่ค้าและผู้รับเหมา   •  แลกเปลี่ยนข้อมูลที่จะช่วยให้คู่ค้ามองเห็นประโยชน์ทางธุรกิจของการรับมือกับความเสี่ยงด้าน
 รวมถึงบริษัทจัดการรักษาความปลอดภัย อาจกำาหนดให้มีการตรวจสอบหรือประเมินผลการทำางานว่าสอดคล้องกับ   สิทธิมนุษยชนในกิจการของพวกเขา
 หลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ เมื่อใดที่บริษัทมีข้อมูลจากการติดตามตรวจสอบ บริษัทก็สามารถหาทางปรับปรุงการ
 ทำางานของพันธมิตรทางธุรกิจได้

                  บริษัทอาจได้ประโยชน์จากประสบการณ์เหล่านี้ ระหว่างที่พัฒนาหรือปรับปรุงวิธีตรวจสอบห่วงโซ่อุปทาน ในเมื่อ
 การได้มาซึ่งข้อมูลการตรวจสอบที่มีความหมายเกี่ยวกับคู่ค้าและผู้รับเหมา  บริษัทของคุณอาจมีคู่ค้าจำานวนมาก คุณก็อาจเน้นเฉพาะคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนสูงสุดในทางปฏิบัติ ไม่ว่า
            ความเสี่ยงนั้นจะเกิดจากธรรมชาติของสินค้า บริการ หรือบริบทการประกอบการ บริษัทบางแห่งใช้วิธีที่คล้ายคลึงกันนี้

    ระบบการติดตามตรวจสอบคู่ค้านั้นเป็นเรื่องธรรมดาในธุรกิจที่หลากหลาย ระบบแบบนี้อาจให้ข้อมูลชนิด “ภาพรวม”   ในการติดตามตรวจสอบบริษัทรักษาความปลอดภัย ซึ่งอาจประยุกต์ใช้ได้ในความสัมพันธ์กับหน่วยงานความมั่นคงของ
 เกี่ยวกับผลประกอบการของคู่ค้าได้ แต่ก็มีข้อจำากัดหลายประการ เช่น  ภาครัฐ





                        7.4            กลไกรับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาระดับปฏิบัติการ
 •  มักพลาดประเด็นสำาคัญเนื่องจากเป็นการติดตามที่สั้นมาก

 •  อาจมองไม่เห็นภาพใหญ่หรือรากสาเหตุของผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
 ที่เกิดบ่อย                        หลักการชี้แนะ UNGP คาดหวังอะไรจากบริษัท?
 •  คู่ค้าที่อยากบิดเบือนสถิติหรือประวัติตัวเองมักจะทำาได้สำาเร็จ
 •  แรงงานอาจเซ็นเซอร์ตัวเองในการให้สัมภาษณ์กับผู้ตรวจสอบ เนื่องจาก

 ถูกข่มขู่คุกคามหรือหวาดกลัว
 •  กระบวนการเหล่านี้มีสถิติค่อนข้างแย่ในแง่ของการปรับปรุงการดำาเนินงาน  •  เมื่อบริษัทระบุได้ว่าบริษัทก่อให้เกิดหรือมีส่วนก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ
 ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างยั่งยืน     ด้านสิทธิมนุษยชน บริษัทก็ควรแก้ไขให้ถูกต้อง หรือมีส่วนร่วมกับการแก้ไข
                                  ผ่านกระบวนการที่ชอบธรรม
                               •  บริษัทควรจัดตั้งหรือมีส่วนในการจัดตั้งกลไกรับเรื่องร้องเรียนสำาหรับผู้มี
                                  ส่วนได้เสียที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากกิจกรรมของตน เพื่อให้เรื่อง

                                  ร้องเรียนเหล่านั้นได้รับการจัดการอย่างทันท่วงที และมีการเยียวยาโดยตรง








 74                                                                                                       75
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80