Page 73 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 73

รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑



          เรียบร้อย การสร้างความโปร่งใส และก�าจัดหรือลดการทุจริต   ของกลุ่ม D-Move ก้าวที่ดีที่เลือกเดิน พร้อมกับการ
          และการใช้อ�านาจโดยมิชอบ โดยยังคงบังคับใช้ประกาศ/    รวมพลคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งมีการเดินขบวนยื่นข้อเรียกร้อง
          ค�าสั่ง  คสช.  หรือกฎหมายซึ่งออกตามมาตรา  ๔๔        ต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการเมืองการปกครองเป็น
          ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)      ส�าคัญ

          พุทธศักราช  ๒๕๕๗  ซึ่งการด�าเนินการในบางกรณี
          ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพบางประการของบุคคล          ประเด็นที่สองเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชน
          สิทธิทางการเมือง  สิทธิชุมชน  และเสรีภาพสื่อ        เพื่อน�าเสนอข้อเรียกร้องในการพัฒนาและการแก้ไข
                                                       ๗๒
                                      ๗๑
                          ๗๐
          ในขณะเดียวกัน  ในภาคประชาชนมีการเคลื่อนไหว          ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตเป็นส�าคัญ  อาทิ
          เพื่อใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพ      การเดินมิตรภาพเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
          ในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของภาคประชาสังคม    ใน  ๕  ประเด็นหลัก   การชุมนุมของประชาชน
                                                                                 ๗๔
          องค์กรชุมชน และภาควิชาการต่าง ๆ โดยมีข้อเรียกร้อง   ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา – กระบี่
          ต่อรัฐบาล ใน ๓ ประเด็นหลัก ดังนี้                   ของเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่ - เทพา ขบวนการ

                                                              ประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม  (P-MOVE)  และ
          ประเด็นแรก เป็นการเรียกร้องให้เร่งรัดติดตามการแก้ไข  เครือข่ายปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.)
          ปัญหาการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ และการก�าหนด
          วันเลือกตั้ง โดยมีเหตุการณ์หลัก ๆ ได้แก่ การปฏิรูป

          ต�ารวจและกระบวนการยุติธรรม และการสร้างความปรองดอง
          ในหมู่ประชาชน   ทั้งนี้  ภายหลังจากที่ประชุม
                          ๗๓
          สนช. ได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบ
          รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

          พ.ศ.  ....  รอบแรกเมื่อวันที่  ๒๕  มกราคม  ๒๕๖๑
          ซึ่งก�าหนดให้กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น ๙๐
          วันนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่งผลให้
          การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก ๓ เดือนจากเดิมที่คาดว่า

          จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑
          ท�าให้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนเพื่อเรียกร้อง
          การจัดการเลือกตั้ง  อาทิ  กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย
          และกิจกรรมรวมพลคนอยากเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ ๒๗

          มกราคม ๒๕๖๑ เป็นต้นมา และในช่วงระหว่างวันที่
          ๑๙ – ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ มีกิจกรรมทางวิชาการ




          ๗๐  อาทิ ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ ซึ่งก�าหนดให้การชุมนุมทางการเมือง ๕ คนขึ้นไปเป็นความผิด ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๑๓/๒๕๕๙ เกี่ยวกับมาตรการเพิ่ม
          ประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระท�าความผิดทางอาญา และฉบับที่ ๕/๒๕๖๐ เกี่ยวกับการก�าหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย
          ซึ่งค�าสั่งบางฉบับให้อ�านาจเจ้าหน้าที่เรียกบุคคลที่สงสัยว่ากระท�าความผิดไปสอบถามข้อมูลและอาจควบคุมตัวได้ไม่เกิน ๗ วัน หากการสอบถามไม่แล้วเสร็จ และการยกเว้น
          การกระท�าตามค�าสั่งไม่ให้อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง.
          ๗๑  อาทิ ค�าสั่ง คสช. ฉบับที่ ๖๔/๒๕๕๗ และฉบับที่ ๖๖/๒๕๕๗ เรื่องการทวงคืนผืนป่า และค�าสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๙ และ ๔/๒๕๕๙ ก�าหนดให้ยกเว้นการบังคับใช้
          กฎหมายผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคารในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และค�าสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๙/๒๕๕๙ ก�าหนดให้หน่วยงานรัฐหาเอกชนผู้รับเหมาโครงการหรือกิจการ
          บางประเภทไปพลางก่อนผ่านรายงานประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้.
          ๗๒  อาทิ ประกาศ คสช. ฉบับที่ ๙๗/๒๕๕๗ และฉบับที่ ๑๐๓/๒๕๕๗ ซึ่งก�าหนดห้ามสื่อรายงานข้อมูลที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และต้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจาก คสช.
          ๗๓  ค�าแถลงคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ๒๕๓๕ ต่อรัฐบาลและสาธารณชน วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๑.
          ๗๔  โดยกลุ่ม People Go Network ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของภาคประชาชนใน ๔ เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายรัฐสวัสดิการ เครือข่ายสลัมสี่ภาค เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
          และเครือข่ายสุขภาพ โดยมีข้อเสนอ ๕ ด้าน คือ (๑) หลักประกันสุขภาพ ที่จะสามารถดูแลทุกคนในประเทศ (๒) นโยบายที่ไม่ท�าลายความมั่นคงทางอาหาร (๓) กฎหมายที่ไม่ลดทอนสิทธิมนุษยชน
          สิทธิชุมชน ดูแลให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม (๔) นโยบายที่ช่วยดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม และ (๕) รัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดที่ก�าหนดชีวิตในฐานะพลเมือง.


       72
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78