Page 77 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 77

รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑



          พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ  พ.ศ.๒๕๕๘             ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งการใช้เสรีภาพดังกล่าว หรือ
          มีเจตนารมณ์เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วย       เพื่อตอบโต้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีลักษณะ
          ความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ    เป็นการกระท�าที่คุกคามการท�างานของบุคคล/
          ความปลอดภัยสาธารณะ  ความสงบเรียบร้อยหรือ            กลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือ

          ศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือ         นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อ
          ความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่        การด�าเนินชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจและ
          กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์   สภาพจิตใจของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน อาจเข้าข่าย
          ของผู้อื่น  ตามหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติ  ดังนั้น   เป็นการด�าเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วม

          การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้อง (การดูแล   ของสาธารณชน (Strategic lawsuit against public
          การชุมนุมสาธารณะ) จึงควรเน้นที่การดูแลและคุ้มครอง   participation:  SLAPP)   การกระท�าดังกล่าว
                                                                                       ๘๒
          การใช้เสรีภาพการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว และพึงระมัดระวัง   อาจไม่สอดคล้องกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
          การใช้ดุลพินิจที่ส่งผลให้มีการปฏิเสธการชุมนุม       ที่เน้นการมีส่วนร่วม รวมทั้งอาจไม่สอดคล้องกับข้อบท

          ในทางที่อาจไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย         ที่ ๒๕  ของกติกา  ICCPR  ที่รับรองสิทธิของบุคคล
                                                              ในการมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐกิจทั้งโดยตรง
          ค�าสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๓/๒๕๕๘ ซึ่งออกตามมาตรา ๔๔    และโดยผ่านผู้แทนที่เลือกโดยเสรี
          ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)

          พุทธศักราช ๒๕๕๗ เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจระบุ  ข้อเสนอแนะ
          ขอบเขตของการชุมนุม หรือมั่วสุมทางการเมืองได้อย่าง   ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
          กว้างขว้างโดยไม่ต้องมีความรับผิดทางปกครอง           ของสหประชาชาติ ประจ�ากติกา ICCPR ได้พิจารณา
          อาจท�าให้เกิดการจ�ากัดและละเมิดสิทธิที่เกินความจ�าเป็น    รายงานการปฏิบัติตามกติกาฯ ของประเทศไทยและ

          และไม่ได้สัดส่วน                                    แสดงความกังวลในการบังคับใช้ค�าสั่งหัวหน้า  คสช.
                                                              ที่ ๓/๒๕๕๘ รวมทั้งเสนอแนะให้ประเทศไทยประกัน
          การรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายของผู้มีสิทธิ        เสรีภาพในการแสดงออก ทั้งนี้ การจ�ากัดการใช้เสรีภาพ
          เลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน   ในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบควรต้องเป็น

          เป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ            ไปตามเงื่อนไขที่ก�าหนดในข้อบทที่ ๑๙ และข้อบทที่
          แห่งราชอาณาจักรไทย ๒๕๖๐ มาตรา ๑๓๓ (๓) ไม่ควรจัดเป็น   ๒๑ ของกติกา ICCPR อย่างเคร่งครัด ดังนั้น เพื่อเป็น
          การมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตามข้อ ๑๒ ของค�าสั่ง   การคุ้มครองการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพใน
          หัวหน้า คสช.ที่ ๓/๒๕๕๘ เว้นแต่จะมีกิจกรรมหรือ       การชุมนุมโดยสงบของประชาชน และเพื่อการเตรียมการ

          การกระท�าอื่นที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความสงบ   เข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป  รวมถึงการส่งเสริมให้การ
          เรียบร้อยร่วมด้วย  ดังนั้น  การบังคับใช้ค�าสั่งห้าม   ด�าเนินการต่าง ๆ ของรัฐสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่าง
          การชุมนุมทางการเมืองต่อการด�าเนินกิจกรรมดังกล่าว    ประเทศด้านสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
          ที่ไม่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยจึงอาจเป็น

          การแทรกแซงการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ           ในกรณีการใช้เสรีภาพของประชาชนในการแสดงออก
                                                              และการชุมนุมโดยสงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดง
          หากการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ      ความคิดเห็นของชุมชนในบริบทของสิทธิชุมชน
          เป็นการกระท�าเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน   ตามมาตรา ๔๓  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร

          และเพื่อประโยชน์สาธารณะ การด�าเนินคดีกับบุคคล       ไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ

          ๘๒  จาก (๑) ข่าวแจก วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สรุปผลการตรวจสอบการร้องเรียนเกี่ยวกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกด�าเนินคดี SLAPP (๒) ข่าวประชาสัมพันธ์ วันที่
          ๗ มีนาคม ๒๕๖๑ สรุปงานวันสตรีสากล ปี ๒๕๖๑ และ (๓) ข่าวแจก ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ โครงการประสานความร่วมมือกับองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน และสภาวิชาชีพ
          ในหัวข้อข้อเสนอแนะนโยบายในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย,” โดย ส�านักงาน กสม., ๒๕๖๒. สืบค้นจาก www.nhrc.or.th


       76
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82