Page 163 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 163

รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑



          และข้อจ�ากัดด้านบุคลากรสาธารณสุข ทั้งในมิติของจ�านวน  ในการด�าเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งในมิติของวิถีชีวิต
          บุคลากร ภาระงาน องค์ความรู้ และทักษะการปฏิบัติงาน   ความเชื่อ และสภาพสังคม รวมถึงปัจจัยด้านบุคลากรที่ปฏิบัติ
                                                              งานเกี่ยวกับอนามัยแม่และเด็ก ทั้งในมิติจ�านวนบุคลากร
          นอกจากนี้ ยังมีข้อห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในมิติต่าง ๆ ที่  ทักษะ องค์ความรู้ และประสบการณ์ในงาน

          อาจส่งผลต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของประชาชน
          ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๖๑ พบว่า          ข้อเสนอแนะ
                                                              ๑. ด้านการด�าเนินงานของรัฐ รัฐควรพิจารณาทบทวน
          การก่อเหตุในพื้นที่สาธารณะที่มีประชาชนหนาแน่น       ความจ�าเป็นในการใช้กฎหมายความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

          ยังคงปรากฏอยู่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์   ในพื้นที่ใดที่สถานการณ์ดีขึ้น  ควรมีการยกเลิกหรือ
          ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม   เปลี่ยนไปใช้กฎหมายความมั่นคงที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ
          เป้าหมายที่มีความเปราะบาง เช่น สตรีและเด็ก รวมถึงปรากฏ   ของประชาชนน้อยกว่าดังเช่นที่ได้ด�าเนินการในอ�าเภอเบตง
          เหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุมุ่งเป้าหมายโดยตรงต่อสตรีและเด็ก  จังหวัดยะลา และอ�าเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส

                                                              โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดระดับมาใช้พระราชบัญญัติการรักษา
          การได้รับวัคซีนของเด็กแรกเกิดถึงอายุ ๑๒ ปี ในพื้นที่ ๓   ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อไม่ให้
          จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการได้รับวัคซีน  เกิดการบังคับใช้กฎหมายซ�้าซ้อนและเพื่อให้กระทบต่อ
          ป้องกันโรคตามตารางสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งอาจส่งผล   สิทธิและเสรีภาพของประชาชนน้อยที่สุด ๓๐๖

          ต่อสุขภาวะและการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกัน
          ได้ด้วยวัคซีน                                       ๒. ด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม จากผลการตรวจสอบ
                                                              ข้อร้องเรียนพบว่าบางกรณียังคงมีการกระท�าอันเป็นการละเมิด
          สตรีมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเข้าถึง    สิทธิมนุษยชนในระหว่างการควบคุมตัว กสม. ได้ตรวจสอบ

          ความยุติธรรมได้อย่างจ�ากัดและประสบกับกระบวนการยุติธรรม   และมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
          ที่ขาดการค�านึงถึงมิติความอ่อนไหวทางเพศสภาพ อาทิ
          ในกรณีการสอบสวนสตรีมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจาก        การประสานความร่วมมือให้แพทย์ของโรงพยาบาล
          ความรุนแรงในครอบครัว พบว่ามีการสอบสวนโดยพนักงาน     ประจ�าจังหวัดเป็นผู้ท�าหน้าที่ตรวจร่างกาย และจัดท�า

          สอบสวนที่เป็นเพศชายและไม่มีการใช้ทีมสหวิชาชีพ       บันทึกการตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานก่อนเพื่อแสดง
          ในกระบวนการสอบสวน นอกจากนี้ ยังพบว่าเมื่อสตรีที่ได้รับ   ความโปร่งใส โดยด�าเนินการก่อนที่จะมีการควบคุมตัว
          ความรุนแรงในครอบครัวด�าเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่   ผู้ที่ถูกเชิญตัวมาซักถามหรือผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
          ต�ารวจ  มักถูกมองว่าเป็นเรื่องในครอบครัวและ         กับเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อ

          ไม่มีการลงบันทึกประจ�าวัน โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้น�า  ประชาชนในพื้นที่และลดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิด
          ศาสนาในชุมชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชายท�าหน้าที่ไกล่เกลี่ย  ความไม่เป็นธรรม


          สตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังประสบปัญหา

          ด้านสุขภาพอนามัยและสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ได้แก่ การสมรส
          และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การไม่ได้เลือกคู่ครองเอง
          ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ อัตราการตายของมารดา
          การถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์จากคู่สมรส และการได้รับ

          ความรุนแรงทางเพศ  ในขณะที่รัฐยังมีข้อท้าทาย



          ๓๐๖  รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายที่ ๘๙/๒๕๕๗  ลงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ.


      162
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168