Page 108 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 108
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
สนับสนุนข้อเสนอของ กสม. ในหลักการ รวมทั้งเห็นควร บางแห่ง อาทิ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผลักดันให้ภาคเอกชนมีมาตรการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน แห่งประเทศไทย เริ่มน�าหลักการ HRDD มาใช้ในการ
มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเอกชนที่ลงทุนในต่างประเทศ ด�าเนินการ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าอย่างส�าคัญในการ
ซึ่งควรมีการศึกษาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนของ ด�าเนินการของรัฐวิสาหกิจในการเคารพสิทธิมนุษยชน
โครงการ การจัดให้มีกลไกปรึกษาหารือและรับเรื่อง สอดคล้องกับความเห็นของคณะท�างานด้านสิทธิมนุษยชน
ร้องเรียนจากชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงการ กับบรรษัทข้ามชาติและองค์กรธุรกิจอื่น ๆ ของ
จัดท�ารายงานประจ�าปีที่เปิดเผยข้อมูลการด�าเนินการ สหประชาชาติที่ระบุว่า รัฐไม่เพียงแต่มีพันธกรณี
เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ตลอดจน ที่จะต้องให้ความคุ้มครองจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
การมีกลไกติดตามผลการปฏิบัติตามหลักการ UNGPs ของ โดยภาคธุรกิจเท่านั้น แต่รัฐยังต้องท�าเป็นตัวอย่าง
ภาคเอกชนด้วย ๑๘๓ โดยดูแลให้รัฐวิสาหกิจเคารพสิทธิมนุษยชนด้วย
๓. การด�เนินการของรัฐวิสาหกิจ ส�าหรับความคืบหน้ากรณีการประท้วงโครงการ บทที่ ๓
สืบเนื่องจากงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน (กระบี่-เทพา) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
เรื่อง “การเผยแพร่และการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วย แห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้น นายกรัฐมนตรีได้มีค�าสั่งชะลอ
ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย” โครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวไว้ก่อน โดยต่อมา เมื่อวันที่ ๒๐
ที่จัดขึ้นโดย กสม. เมื่อปี ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้
ให้คณะกรรมการนโยบายและก�ากับดูแลรัฐวิสาหกิจ ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) โดยมีสาระ ดังนี้
ขับเคลื่อน UNGPs โดยสร้างความเข้าใจหลักการ/วิธี (๑) ให้ถอนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและ
ปฏิบัติให้สอดคล้อง รวมถึงสร้างการรับรู้ในประเทศ/ สุขภาพ (EHIA) ของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และโรงไฟฟ้า
ต่างประเทศ ดังนั้น ในปี ๒๕๖๑ กสม. จึงได้ร่วมมือ ถ่านหินสงขลา (๒) กระทรวงพลังงานจะจัดท�ารายงาน
กับส�านักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์
(สคร.) จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “รัฐวิสาหกิจไทยสู่ (strategic environmental assessment : SEA)
ต้นแบบการท�าธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน” เมื่อวันที่ โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
๕ เมษายน ๒๕๖๑ ที่โรงแรมเซ็นทรา แจ้งวัฒนะ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้า
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ ถ่านหินในพื้นที่เหล่านี้ และ (๓) กฟผ.จะต้องยุติโครงการ
UNGPs แก่รัฐวิสาหกิจและเพื่อส่งเสริมให้มีการน�า โดยถาวร หากผลรายงานการประเมินผลกระทบ
หลักการดังกล่าวไปใช้ในทางปฏิบัติ ในการประชุม สิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ไม่ได้รับความเห็นชอบ
ดังกล่าว ผู้บริหาร สคร. ได้ยืนยันถึงความส�าคัญของ
หลักการ UNGPs ทั้ง ๓ ประการ และการด�าเนินธุรกิจ
ที่เคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการท�าธุรกิจกับ
กลุ่มคู่ค้าที่ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้
ยังเห็นว่าหน่วยงานที่ก�ากับดูแลรัฐวิสาหกิจควรพิจารณา
ปรับแนวปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจ
ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับในระหว่าง
ประเทศด้วย สะท้อนให้เห็นว่า ภาครัฐวิสาหกิจ
ได้ให้ความส�าคัญกับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เคารพ
สิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีรัฐวิสาหกิจ
๑๘๓ หนังสือส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๗/๑๗๑๕๓ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เรื่อง สรุปผลการพิจารณาการด�าเนินการตามรายงานผลการพิจารณาค�าร้อง
ที่มีข้อเสนอแนะนโยบาย เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีการด�าเนินโครงการท่าเรือน�้าลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาของบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
จ�ากัด (มหาชน) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการพิจารณาโครงการดังกล่าว ที่มีการกระท�าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวทวาย.
107