Page 74 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 74

50


               ใดเป็นคนปลอมแปลงลายมือชื่อ เมื่อสืบหาได๎แล๎วจะมาแจ๎งความร๎องทุกข๑กับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง” ทั้งที่ผู๎

               ร๎องต๎องการด าเนินคดีกับผู๎ที่ปลอมลายมือชื่อผู๎ร๎องในบันทึกฯ
                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนพิจารณาค าร๎องเรียนแล๎วเห็นวําเป็นประเด็นที่เกี่ยวข๎องกับสิทธิของ

               บุคคลที่จะได๎รับการปฏิบัติอยํางเหมาะสมในการด าเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสิทธิที่จะให๎คดี

               ของตนได๎รับพิจารณาอยํางถูกต๎อง รวดเร็วและเป็นธรรม อันเป็นสิทธิที่ได๎รับการรับรองหรือคุ๎มครองตาม
               รัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย จึงเป็นค าร๎องที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน อยูํในอ านาจของคณะกรรมการ

               สิทธิมนุษยชนแหํงชาติ ตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 257 และพระราชบัญญัติ

               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 15  ซึ่งมีประเด็นดังตํอไปนี้ (รายงานผลพิจารณาที่
               262/2556)

                       ประเด็นที่ 1 เจ๎าหน๎าที่ ได๎กระท าหรือละเลยการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีปลอม
               แปลงลายมือชื่อในบันทึกตรวจยึดในชั้นจับกุม และไมํบันทึกรายการทรัพย๑สินที่ตรวจยึดไว๎เป็นเหตุให๎ทรัพย๑สิน

               สูญหาย ซึ่งประเด็นนี้เป็นเพียงข๎อกลําวอ๎างของผู๎ร๎องฝุายเดียว ประกอบกับคดีนี้ผู๎ร๎องได๎ร๎องทุกข๑กลําวโทษ
               เจ๎าหน๎าที่ชุดจับกุมตํอพนักงานสอบสวน สถานีต ารวจภูธรหนองหาน โดยพนักงานสอบสอนได้รับค าร้องทุกข์

               และได้ส่งเรื่องให้ส านักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 จังหวัดขอนแก่น พิจารณาแล้ว กรณีนี้ผู๎

               ร๎องมีชํองทางตํอสู๎คดีแล๎ว จึงไมํมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
                       ประเด็นที่ 2 พนักงานสอบสวน สถานีต ารวจภูธรหนองหาน จังหวัดอุดรธานี กระท าหรือละเลยการ

               กระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีไมํรับค าร๎องทุกข๑กลําวโทษในคดีปลอมแปลงรายมือชื่อในบันทึก

               การตรวจยึดทรัพย๑สินชั้นจับกุมหรือไมํ ซึ่งในประเด็นนี้จากการตรวจสอบพบวําพนักงานสอบสวน สถานี
               ต ารวจภูธรหนองหานได้รับค าร้องทุกข์ของผู้ร้องไว้และได้ส่งเรื่องให้ส านักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต

               ในภาครัฐ เขตพื้นที่ 4 จังหวัดขอนแกํนพิจารณาแล๎ว จึงยังฟังไมํได๎วําพนักงานสอบสวน สถานีต ารวจภูธร
               หนองหาน ไมํรับค าร๎องทุกข๑ของผู๎ร๎องตามที่กลําวอ๎าง จึงยังไมํมีการกระท าหรือละเลยการกระท าอันเป็นการ

               ละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น
                       ประเด็นที่ 3 กรณีที่ผู๎ร๎องของให๎ตรวจสอบทรัพย๑สินที่ไมํได๎บันทึกไว๎ในบันทึกการตรวจยึดทรัพย๑สิน

               และชํวยเหลือให๎ได๎รับทรัพย๑สินที่ถูกยึดคืนจากส านักงานคณะกรรมการปูองกันละปราบปรามยาเสพติด อยูํใน

               อ านาจหน๎าที่ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติจะด าเนินการได๎หรือไมํ ซึ่งในประเด็นนี้ ไมํปรากฏวํามี
               พยานหลักฐานที่เชื่อได๎วําเจ๎าหน๎าที่ชุดจับกุมเป็นผู๎น าทรัพย๑สินของผู๎ร๎องไปโดยไมํได๎บันทึกไว๎ในบันทึกการ

               ตรวจยึดทรัพย๑สิน ประกอบกับเห็นวําการที่ส านักงานคณะกรรมการการปูองกันและปราบปรามยาเสพติดได๎

               ท าการยึดทรัพย๑สินของผู๎ร๎องไว๎ เป็นการยึดโดยอาศัยอ านาจตามพระราชบัญญัติมาตรการปราบปรามผู๎กระท า
               ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.  2534 การขอคืนทรัพย๑สินที่ถูกยึดหรืออายัดดังกลําวมีบทบัญญัติของ

               กฎหมายบัญญัติขั้นตอนและวิธีการไว๎เป็นการเฉพาะ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติจึงไมํอาจใช๎อ านาจ
               ในการด าเนินการให๎ความชํวยเหลือแก๎ผู๎ร๎องให๎ได๎รับทรัพย๑สินที่ถูกยึดได๎ ซึ่งในกรณีนี้หากผู๎ร๎องเห็นวําการยึด

               ทรัพย๑สินดังกลําวไมํถูกต๎องก็สามารถฟูองร๎องด าเนินคดีได๎ ประกอบกับในกรณีนี้ได๎พยายามติดตํอผู๎ร๎องเพื่อขอ
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79