Page 71 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 71

47


                       อยํางไรก็ตาม การปฏิบัติหน๎าที่ของพนักงานสอบสวนนั้น ส านักงานต ารวจแหํงชาติได๎มีค าสั่งที่

               414/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่องก าหนดการอ านวยความยุติธรรมในคดีอาญา การท าส านวน
               สอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เรํงรัดการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวน โดยก าหนดให๎

               พนักงานรับแจ๎งเหตุและลงหลักฐานรับค าร๎องทุกข๑หรือค ากลําวโทษและรีบด าเนินการสอบสวนโดยไมํชักช๎า ซึ่ง

               จากการตรวจสอบข๎อเท็จจริงปรากฏวําพนักงานสอบสวนสถานีต ารวจนครบาลลุมพินีได๎รับร๎องทุกข๑ตั้งแตํ 6
               มกราคม 2554 แตํสรุปส านวนการสอบสวนสํงผู๎บังคับบัญชา วันที่ 30 ตุลาคม 2556 ระยะเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 9

               เดือน โดยทาง สถานีต ารวจนครบาลลุมพินีชี้แจงวํา เนื่องจากคดีมีพนักงานสอบสวนรับผิดชอบหลายคน และ

               จากการตรวจสอบพบวําร๎อยต ารวจเอก บ. ได๎ท าส านวน เป็นเวลา 1 ปี 7 เดือน ยังไมํเสร็จแล๎วย๎ายไปสถานี
               ต ารวจนครบาลทุํงมหาเมฆ และทางสถานีต ารวจนครบาลลุมพินีได๎มีหนังสือไปยังสถานีต ารวจนครบาลทุํง

               มหาเมฆเพื่อพิจารณาข๎อบกพรํองดังกลําว คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนใน
               กระบวนการยุติธรรมเห็นวํา การตรวจสอบข๎อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล๎ว จึงมีมติให๎ยุติการตรวจสอบเสนอเรื่องตํอ

               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ
                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ พิจารณาผลการตรวจสอบข๎อเท็จจริง เห็นวํา กรณีค าร๎อง

               พนักงานสอบสวนได้ด าเนินการตามขั้นตอนตามที่กฎหมายก าหนดแล้ว อีกทั้งสถานีต ารวจนครบาลลุมพินีได๎มี

               หนังสือแจ๎งให๎สถานีต ารวจนครบาลทุํงมหาเมฆพิจารณาเรื่องท าการสอบสวนลําช๎าไปตามอ านาจหน๎าที่แล๎ว
               เห็นควรให๎ยุติเรื่อง (รายงานผลพิจารณาที่ 375/2557)



                       30) ค าร้องที่ 362/2556: กรณีการแถลงข่าวอันกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล
                       ผู๎ร๎อง ร๎องเรียนวําอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกับพวกได๎รํวมกันแถลงขําว กรณีสอบสวนคดีพิเศษ

               ออกหมายเรียกผู๎ร๎องซึ่งเป็นลูกศิษย๑ของนาย ว. เพื่อให๎ปากค ากรณีนาย ว. ถูกกลําวหาวําหลอกลวงประชาชน
               ซึ่งในการแถลงขําวกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ๎งตํอสื่อมวลชนวําผู๎ร๎องเคยมีประวัติออกหมายจับคดียัดยอกทรัพย๑

               และอาจมีความผิดเกี่ยวกับทรัพย๑ในข๎อหาอื่นๆ อีกทั้งเคยถูกจับกุมในคดีชุมนุมทางการเมือง ตํอมาสื่อมวลชน
               ได๎น าข๎อมูลไปลงหนังสือพิมพ๑หลายฉบับท าให๎ผู๎ร๎องได๎รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ

               สํวนบุคคลผู๎ร๎องจึงขอให๎ตรวจสอบกรณีดังกลําว

                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ พิจารณาค าร๎องและความเห็นของอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน
               ด๎านกฎหมายและการเลือกปฏิบัติอยํางไมํเป็นธรรมแล๎ว เห็นวํา เนื่องจากผู๎ร๎องไมํจัดสํงเอกสารหรือ

               พยานหลักฐานที่เกี่ยวข๎องมาภายในก าหนดเวลาและไมํได๎แจ๎งเหตุขัดข๎องในการจัดสํงเอกสารพยานหลักฐาน

               จึงต๎องพิจารณาค าร๎องตามเอกสารและข๎อมูลที่รวบรวมได๎ ซึ่งประเด็นที่ผู๎ร๎องกลําวอ๎างวําอธิบดีกรมสอบสวน
               คดีพิเศษและพวกแถลงขําวเกี่ยวกับประวัติสํวนบุคคลท าให๎ผู๎ร๎องเสียชื่อเสียง จากการตรวจสอบ

               พยานหลักฐานพบวําข๎อความที่ปรากฏในหนังสือพิมพ๑เป็นการรายงานขําวของผู๎สื่อขําวไมํปรากฏวําได๎ข๎อมูลผู๎
               ร๎องมาจากที่ใด ประกอบกับในวันแถลงกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงวําไมํได๎พาดพิงถึงผู๎ร๎องรวมถึงมิได๎มีการพูด

               เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพยานหลักฐานแหํงคดีที่จะมีผลให๎เสียรูปคดี ทั้งนี้ยังไมํปรากฏข๎อเท็จจริงตามที่ผู๎
               ร๎องร๎องเรียนมา อีกทั้งผู๎ร๎องได๎ใช๎สิทธิในการร๎องทุกข๑กลําวโทษตํอพนักงานสอบสวนและฟูองคดีตํอกรม
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76