Page 70 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 70
46
29) ค าร้องที่ 74//2555: กรณีเกี่ยวข้องกับสิทธิของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม
ผู๎ร๎องได๎ร๎องเรียนตํอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ วําผู๎ร๎องกับนายเอ นามสมมุติ ได๎ทะเลาะ
วิวาทกันบริเวณลานจอดรถของโรงแรม อ. เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 เป็นเหตุให๎ผู๎ร๎องและนายเอ ได๎รับ
บาดเจ็บ ตํอมาพนักงานสอบสวน สถานีต ารวจนครบาลลุมพินี ได๎แจ๎งข๎อกลําวหาตํอผู๎ร๎องวําพยายามฆําผู๎อื่น
โดยไมํมีการแจ๎งข๎อกลําวหานายเอ คูํกรณี ผู๎ร๎องเห็นวําไมํได๎รับความเป็นธรรม จึงขอให๎ตรวจสอบ กรณีนี้
ข๎อเท็จจริงค าร๎องเป็นประเด็นเกี่ยวกับสิทธิของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม อันอยูํในอ านาจของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ ตาม รัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 257 วรรค
หนึ่ง (1) ซึ่งมีผลบังคับอยูํขณะตรวจสอบ และ พ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา
15 คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด๎านสิทธิในกระบวนการยุติธรรมด าเนินการตรวจสอบ
พบวํามีประเด็นที่ต๎องพิจารณา คือพนักงานสอบสวน สถานีต ารวจนครบาลลุมพินี กระท าหรือละเลยการ
กระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีสืบสวนคดีที่ผู๎ร๎องตกเป็นผู๎ต๎องหาด๎วยความเป็นธรรมหรือไมํ
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล๎วเห็นวําในการสอบสวนคดีอาญา พนักงานสอบสวนต๎องรวบรวม
พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับคดี ยังเป็นการพิสูจน๑ให๎เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู๎ต๎องหา การแจ๎งข๎อ
กลําวหาพนักงานสอบสวนสามารถใช๎ดุลพินิจที่อยูํภายใต๎ข๎อเท็จจริงและพยานหลักฐานตามสมควร เมื่อ
ข๎อเท็จจริงปรากฏวําเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 ต ารวจไปถึงที่เกิดเหตุพบผู๎ร๎องยืนรอมอบตัว สํวนนายเอ ถูก
น าตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลต ารวจ โดยพนักงานสอบสวนแจ๎งข๎อกลําวหาแกํผู๎ร๎องวําท าร๎ายรํางกายผู๎อื่น โดยที่
ผู๎ร๎องให๎ข๎อเท็จจริงวํานายเอ ท าร๎ายผู๎ร๎องกํอนผู๎ร๎องจึงท าเพื่อปูองกันตัว พิจารณาแล๎วค าให๎การของผู๎ร๎องตํอ
พนักงานสอบสวนไมํปฏิเสธวําผู๎ร๎องมิได๎ท าร๎ายรํางกายนายเอ ดังนั้นการที่พนักงานสอบสวนอาศัยข๎อเท็จจริง
ค าให๎การนี้ ประกอบกับพยานหลักฐานขณะนั้น คืออาวุธมีด และขวาน แล๎วแจ๎งข๎อหาท าร๎ายรํางกายผู๎อื่น
รวมถึงแจ๎งข๎อกลําวหาเพิ่มเติมวําพยายามฆําผู๎อื่น ภายหลังได๎รับเอกสารการชันสูตรบาดแผลของนายเอ คูํกรณี
ซึ่งปรากฏวํารุนแรงอาจถึงแกํชีวิตได๎ จึงถือวําเป็นการใช๎ดุลพินิจในการแจ๎งข๎อกลําวหาภายใต๎ข๎อเท็จจริงและ
พยานหลักฐานตามสมควรแล๎ว
ส าหรับกรณีที่ผู๎ร๎องร๎องเรียนวําพนักงานสอบสวนด าเนินคดีแตํผู๎ร๎องฝุายเดียว โดยมิได๎แจ๎งข๎อกลําวหา
แกํนายเอ คูํกรณีด๎วยนั้น เมื่อข๎อเท็จจริงปรากฏวําภายหลังที่พนักงานสอบสวนได๎แจ๎งข๎อกลําวหาแกํผู๎ร๎องแล๎ว
ได๎สอบปากค านายเอ คูํกรณี ที่โรงพยาบาล และสอบปากค าพยานแวดล๎อมที่อยูํบริเวณที่เกิดเหตุ จ านวน 2
คน สรุปวําเป็นผู๎ร๎องท าร๎ายรํางกายนายเอ ฝุายเดียว พยานแวดล๎อมเห็นผู๎ร๎องท าร๎ายนายเอ ฝุายเดียว
ประกอบกับพนักงานสอบสวนได๎พิจารณาแผลตามรํางกายผู๎ร๎องพบวําได๎รับบาดเจ็บบริเวณหน๎าผากเพียง
เล็กน๎อยและบริเวณข๎อศอกพบรอยถลอก ไมํทราบวําเกิดจากสาเหตุใด จึงมิได๎แจ๎งข๎อกลําวหานายเอ พิจารณา
แล๎วเห็นวําพนักงานสอบสวนใช๎ดุลพินิจในการไมํแจ๎งข๎อกลําวหานายเอ เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
มิได๎เป็นการกระท าละเลยการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือปฏิบัติไมํเป็นธรรมแกํผู๎ร๎องอยํางใด
ทั้งนี้หากผู๎ร๎องมีพยานหลักฐานที่พิสูจน๑วําผู๎ร๎องปูองกันตัวจากการท าร๎ายของนายเอก็สามารถยกข๎อเท็จจริง
และพยานหลักฐานตํอสู๎ในชั้นศาลได๎