Page 597 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 597

573


                  ข้อเท็จจริงที่เหมือนกัน (ค าร้องที่  74//2555)     อ้างว่าได้รับความไม่เป็นธรรมในการด าเนินการของ

                  เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม (ค าร้องที่ 261/2555)  กรณีเช่นนี้อาจจ าแนกได้สองกรณี คือ
                          กรณีแรก  หากปรากฏว่าการเรียกร้องสิทธิในกระบวนการตามกฎหมายมีการปฏิบัติที่แตกต่างกัน

                  ด้วยเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ เช่น สืบเนื่องจากการที่ผู้ร้องเกี่ยวข้องกับเหตุด้านเชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ อาจ

                  เกี่ยวข้องกับการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้
                         กรณีที่สอง แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติดังกล่าว  หากปรากฎว่าการเรียกร้อง

                  ตามกระบวนการนั้นได้รับการปฎิเสธ ล่าช้า ไม่เป็นไปตามกฎหมาย อาจเกี่ยวข้องกับการละเมิด สิทธิของ
                  บุคคลในกระบวนการยุติธรรม ที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญอันอยู่ในขอบเขตอ านาจตรวจสอบของ

                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                         ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า  กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าเกิด “การเลือกปฏิบัติ”  แต่เมื่อพิจารณาในกรอบ

                  กฎหมายสิทธิมนุษยชนแล้วเป็นกรณีการปฏิบัติในลักษณะเป็นกลาง (Neutral)  ที่มีผลกับทุกคน หรือเป็น

                  กรณีการปฏิบัติแตกต่างกันซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน  จึงไม่
                  อาจจัดว่าเป็น “การเลือกปฏิบัติ”  (Discrimination)   แต่กระนั้นก็ตาม  ยังอาจอยู่ในขอบเขตอ านาจการ

                  ตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ หากเป็นการกระทบ  “สิทธิมนุษยชน” ในแง่อื่นๆ

                  ของผู้ร้อง “ที่ได้รับการรับรองหรือคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือ ตามกฎหมายไทย
                                                                            4
                  หรือ ตามสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม”   เช่น การปฏิบัติที่แตกต่างกันอัน
                  กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกทางศาสนา  สิทธิเสรีภาพทางการศึกษา ศักดิ์ศรีของมนุษย์  สิทธิใน
                  ความเป็นอยู่ส่วนตัว  เสรีภาพในการสื่อสาร สิทธิในกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น





                         5.1.1.3  “การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม” ในบริบทของกฎหมายปกครอง


                         จากที่ได้วิเคราะห์ในบทที่ 4  พบว่าการเลือกปฏิบัติในบริบทของกฎหมายปกครองอาจ
                  ประกอบด้วยการเลือกปฏิบัติที่กว้างกว่า “เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ”  ตามนัยกฎหมายสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้

                  เนื่องจากการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายปกครองอยู่บนพื้นฐานหลักการที่แตกต่างกับกฎหมายสิทธิมนุษยชน

                  ดังกล่าวมาแล้ว   โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติต่อบุคคลแตกต่างกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ดุลพินิจโดยมิ
                  ชอบ หรือเป็นการใช้อ านาจทางปกครองตามอ าเภอใจ  แม้ว่าไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับเหตุแห่ง

                  การเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน แต่ศาลปกครองก็ตัดสินว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ   ผู้วิจัยจึง
                  จ าแนกการเลือกปฏิบัติในขอบเขตกฎหมายปกครองเป็นอีกกลุ่มหนึ่งต่างหากและอาจสรุปได้ดังนี้


                          คดีที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนซึ่งผู้ฟ้องคดีอ้างว่ามีการเลือกปฏิบัติเนื่องจากบุคคลที่อยู่ในสถานะ

                  เหมือนกันหรือที่ดินที่อยู่ในสภาพเหมือนกัน แต่ได้รับค่าทดแทนที่แตกต่างกัน  โดยศาลน าหลักความเท่า

                  เทียมกันตามรัฐธรรมนูญมาปรับใช้และตัดสินว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ขัดต่อหลักความเท่าเทียมหรือหลัก


                  4  พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 , มาตรา 3
   592   593   594   595   596   597   598   599   600   601   602