Page 601 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 601
577
(2) เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติที่รัฐธรรมนูญของไทยมีการใช้ถ้อยค าในลักษณะที่แคบกว่ากฎหมาย
ระหว่างประเทศ เช่น ให้การคุ้มครองเหตุเกี่ยวกับ “ความคิดเห็นทางการเมือง” ในขณะที่กฎหมายระหว่าง
ประเทศครอบคลุม “ความคิดเห็นอื่นใด” ด้วย ซึ่งมีขอบเขตกว้างกว่าการเมือง เช่น ความคิดเห็นใน
ประเด็นต่างๆ ของสังคม ส าหรับการระบุถ้อยค า “ความเชื่อทางศาสนา” ตามรัฐธรรมนูญนั้นท าให้
ขอบเขตของเหตุนี้มีลักษณะจ ากัดลง โดยความเชื่อที่จะได้รับการคุ้มครองต้องเกี่ยวข้องกับ “ศาสนา” อัน
น าไปสู่ประเด็นปัญหาว่า ความเชื่อที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา รวมทั้ง ศาสนาที่มิใช่ศาสนากระแสหลัก จะจัด
อยู่ในเหตุที่ได้รับความคุ้มครองนี้หรือไม่ ในขณะที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ความเชื่ออื่นที่ไม่
เกี่ยวข้องกับศาสนา อาจได้รับการคุ้มครองภายใต้ความหมายของ “ความคิดเห็นอื่นใด” นอกจากนี้
กฎหมายบางประเทศระบุความเชื่ออื่น แยกจาก ศาสนา เช่น กฎหมายสวีเดนระบุ “ศาสนาหรือความเชื่อ
อื่นๆ (Religion or other Belief)” นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่า จากร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น (2559)
ก าหนดเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติไว้เพียง “เหตุแห่งความแตกต่างระหว่างบุคคล เพศ ความพิการ หรือเหตุ
อื่นใด” ซึ่งเป็นการระบุเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติไว้ในขอบเขตที่จ ากัดกว่ากฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่าง
ประเทศและกฎหมายของหลายประเทศ ท าให้เกิดปัญหาต้องตีความว่า เหตุอื่นๆ ที่รัฐธรรมนูญไม่ระบุไว้
แต่เป็นเหตุตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหรือเป็นเหตุส าคัญที่ควรได้รับการคุ้มครองตามที่
ปรากฏในกฎหมายต่างประเทศนั้น สามารถจัดอยู่ใน “เหตุอื่นใด” ได้หรือไม่
(3) เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติบางกรณีกฎหมายต่างประเทศได้ขยายความจากเหตุดั้งเดิมที่ระบุไว้
โดยมีการแจกแจงรายละเอียดเพื่อความครอบคลุมและชัดเจน เช่น กรณีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่ง
“เพศ” นั้น ในหลายประเทศระบุจ าแนกละเอียดออกเป็นหลายกรณี เช่น “รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทาง
เพศ การแสดงออกทางเพศ” ด้วย ในขณะที่ประเทศไทยมีการบัญญัติไว้เพียง “เพศ” แต่กฎหมายเฉพาะ
เช่น พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ระบุเหตุแห่ง “การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น
ธรรมระหว่างเพศ” ครอบคลุม “การแสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยก าเนิด” นอกจากนี้ในบางเหตุที่
กฎหมายต่างประเทศระบุไว้ชัดเจน เช่น การติดเชื้อเอชไอวี ดังเห็นได้จากกฎหมายระดับมลรัฐหลายมลรัฐ
ในออสเตรเลีย แต่ในกรณีของไทยมิได้ระบุไว้โดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะต้องตีความของถ้อยค าเกี่ยวกับเหตุ
“สุขภาพ” ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
(4) เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติบางเหตุมิได้ระบุไว้โดยชัดแจ้งตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่าง
ประเทศ แต่กฎหมายต่างประเทศบางประเทศก าหนดครอบคลุมขึ้นมา เพื่อเป็นการคุ้มครองการเลือก
ปฏิบัติในปัจจุบันที่มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะทางสังคม เช่น ประวัติการต้องโทษทางอาญา
การให้นมบุตรจากอกแม่ การตั้งครรภ์ กรณีเหล่านี้มีความส าคัญและกระทบสิทธิของบุคคลในมิติต่างๆ
เช่น การจ้างแรงงาน การด าเนินชีวิตในสถานที่สาธารณะ เป็นต้น ดังที่ได้วิเคราะห์มาแล้ว ในแง่หนึ่งอาจ
พิจารณาว่าสามารถตีความอยู่ในเหตุที่กฎหมายก าหนด เช่น กรณีการให้นมบุตร หรือ กรณีการตั้งครรภ์
อาจตีความอยู่ในเหตุแห่ง “เพศ” ส าหรับกรณีประวัติอาชญากรรมอาจตีความอยู่ใน “สถานะของบุคคล”

