Page 583 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 583
559
621
บุหรี่” เป็นเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ หากเปรียบเทียบกฎหมายออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กับกฎหมายไทย
ปัจจุบันจะเห็นได๎วํา แม๎ไทยไมํมีกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่กําหนดหลักการห๎ามเลือกปฎิบัติไว๎เฉพาะดังเชํน
กฎหมายของสองประเทศดังกลําว แตํเหตุแหํงการสูบบุหรี่ก็ไมํได๎รับการคุ๎มครองในบริบทของการเลือก
ปฎิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนของนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ทําให๎ผลสุดท๎ายแล๎ว อาจกลําวได๎วํา ไทย
ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ จัดอยูํในกลุํมเดียวกันกลําวคือ ไมํมีกฎหมายเฉพาะที่คุ๎มครองการปฎิบัติตํอ
บุคคลแตกตํางกันด๎วยเหตุแหํงการสูบบุหรี่ในมิติการจ๎างแรงงาน ซึ่งแตกตํางจากกฎหมายหลายมลรัฐใน
สหรัฐอเมริกาซึ่งมีการระบุคุ๎มครองเหตุดังกลําวไว๎ในกฎหมาย
อาจสรุปได๎วํา จากการศึกษากรณีการปฎิบัติตํอบุคคลหนึ่งแตกตํางจากบุคคลอื่นในมิติที่เกี่ยวข๎อง
กับการจ๎างแรงงาน ด๎วยเหตุแหํงการที่บุคคลนั้นสูบบุหรี่ ในมุมมองของกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการ
เลือกปฎิบัติ ทําให๎เห็นวํา การปฎิบัติที่แตกตํางด๎วยเหตุบางอยําง อาจไมํจัดอยูํในความหมายของการเลือก
ปฎิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหวํางประเทศ ดังเชํนกรณี “การสูบบุหรี่” ซึ่งมิได๎ปรากฏในกฎหมาย
สิทธิมนุษยชนระหวํางประเทศฉบับตํางๆ โดยเฉพาะในกรอบของสหประชาชาติ นอกจากนี้ หากพิจารณา
กฎหมายภายในของตํางประเทศที่มีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับการห๎ามเลือกปฎิบัติแล๎วพบวํา บางประเทศ
กําหนดคุ๎มครองให๎เหตุดังกลําวเป็นเหตุแหํงการเลือกปฎิบัติด๎วย เชํน กฎหมายหลายมลรัฐของ
สหรัฐอเมริกา ในขณะที่บางประเทศ เชํน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ ไทย มิได๎กําหนดคุ๎มครองให๎เหตุนี้
เป็นเหตุแหํงการเลือกปฎิบัติโดยเฉพาะ ดังนั้น การปฎิบัติที่แตกตํางด๎วยเหตุแหํงการสูบบุหรี่ เชํน การไมํรับ
บุคคลเข๎าทํางานด๎วยเหตุที่บุคคลนั้นสูบบุหรี่จึงไมํถือวําเป็นการเลือกปฎิบัติอันฝุาฝืนตํอกฎหมาย
อยํางไรก็ตาม การนําเหตุ “พฤติกรรมการสูบบุหรี่” มาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจ๎าง
แรงงานนั้น อาจพิจารณาได๎สองแงํมุม กลําวคือ ในมุมมองของนายจ๎างนั้นอาจมีเหตุผลหลายประการ เชํน
การสูบบุหรี่อาจทําให๎นายจ๎างต๎องมีต๎นทุนมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่นายจ๎างขององค์กรนั้นจัดให๎มีสวัสดิการ
ด๎านการรักษาพยาบาลให๎กับลูกจ๎าง ดังนั้นลูกจ๎างที่สูบบุหรี่อาจมีแนวโน๎มที่จะมีปัญหาสุขภาพและสํงผลตํอ
ต๎นทุนของนายจ๎างรวมทั้งการเจ็บปุวยอาจกระทบตํอการทํางาน นอกจากนี้ การสูบบุหรี่อาจเกี่ยวข๎องและ
กระทบตํองานบางอยําง เชํน งานที่ต๎องติดตํอกับลูกค๎า โดยเฉพาะลูกค๎าบางรายที่ไมํสูบบุหรี่ ดังนั้น ในแงํนี้
จะเกี่ยวข๎องกับสิทธิของนายจ๎างในการคัดเลือกผู๎ที่จะมาทํางาน อยํางไรก็ตาม ในอีกแงํหนึ่งนั้น การนําเหตุ
ดังกลําวมากําหนดคุณสมบัติที่เกี่ยวข๎องกับงานโดยไมํคํานึงถึงลักษณะงานแตํละประเภทอาจเป็นการ
สะท๎อนทัศนคติแบบ “เหมารวม” ดังนั้น ผู๎วิจัยเห็นวํา หลักการพิจารณา “คุณสมบัติอันเป็นสาระสําคัญ
และเกี่ยวเนื่องกับงาน” สามารถนํามาเป็นองค์ประกอบของกฎหมายเพื่อการสร๎างความสมดุลระหวําง สิทธิ
ของนายจ๎างในการคัดเลือกผู๎ที่จะมาทํางาน กับ การคุ๎มครองผู๎ถูกเลือกปฎิบัติด๎วยเหตุแหํงการสูบบุหรี่ โดย
การพิจารณาเป็นกรณีไปวํา การสูบบุหรี่มีความสําคัญและอาจสํงผลกระทบตํอการทํางานในตําแหนํงงาน
นั้นหรือไมํ หากไมํมีผลกระทบหรือไมํมีความสัมพันธ์กัน ก็ไมํสามารถปฎิบัติตํอบุคคลแตกตํางกันด๎วยเหตุ
แหํงการสูบบุหรี่
621
Australian Human Rights Commission Act 1986, Part I , article 3 (Interpretat

