Page 550 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 550
526
ตามพระราชบัญญัติโรคติดตํอ ดังนั้น ตามพระราชบัญญัติโรงแรมแล๎ว ทางโรงแรมจึงอาจปฏิเสธการเข๎าพัก
ของผู๎ปุวยโรคนี้ได๎ แตํทั้งนี้การปฏิเสธต๎องอยูํภายใต๎เงื่อนไขวํา “มีเหตุอันควรเชื่อ” วําบุคคลนั้นเป็น
โรคติดตํอด๎วย ดังนั้นหากไมํมีหลักฐานหรือมีเหตุอันควรเชื่อวําผู๎มาติดตํอขอพักเป็นผู๎ติดเชื้อเอดส์ เชํน
องค์กรเครือขํายเอกชนที่ดําเนินการเกี่ยวกับโรคเอดส์มาติดตํอขอเข๎าพักเพื่อประชุมสัมมนาที่โรงแรมแหํง
หนึ่งเป็นเวลา 3 วัน ดังนี้โรงแรมก็ไมํสามารถปฏิเสธการเข๎าพักของบุคคลผู๎ทํางานเกี่ยวข๎องกับโรคเอดส์ทุก
คน เนื่องจากการปฏิเสธดังกลําวมีขอบเขตจํากัดเฉพาะตํอบุคคลที่นําเชื่อวําเป็นผู๎ติดเชื้อเทํานั้น
4. นิติสัมพันธ์ระหวํางโรงแรมกับลูกค๎านั้นอาจเกี่ยวข๎องกับสัญญาหลายลักษณะ เชํน ลูกค๎ามาใช๎
บริการห๎องอาหาร ลูกค๎ามาใช๎บริการประชุม สัมมนา จัดกิจกรรมตํางๆ ลูกค๎ามาใช๎บริการห๎องพัก จึงมี
ประเด็นวํา การปฏิเสธการให๎บริการตาม พระราชบัญญัติโรงแรมนั้น ครอบคลุมถึงการบริการอื่นๆนอกจาก
ห๎องพักด๎วยหรือไมํ เชํน ปฏิเสธการให๎บริการห๎องจัดเลี้ยง ประชุมสัมมนา ปฏิเสธการให๎บริการอาหาร ใน
560
ประเด็นนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับหลักกฎหมายแพํงและพาณิชย์เกี่ยวกับความรับผิดในทรัพย์สินของแขกนั้น
ผู๎วิจัยเห็นวํา ความรับผิดทางทรัพย์สินตามกฎหมายแพํงนั้นครอบคลุมเฉพาะกรณีแขกที่มาพัก
561
โรงแรมเทํานั้น ไมํรวมถึงแขกที่มาใช๎บริการอื่น สําหรับ พระราชบัญญัติโรงแรม วางหลักควบคุมการ
ประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีขอบเขตที่กว๎างกวํากฎหมายแพํงและพาณิชย์วําด๎วยวิธีเฉพาะสําหรับเจ๎าสํานัก
โรงแรมดังกลําว ที่เกี่ยวข๎องกับการดําเนินกิจการโรงแรมเฉพาะกรณีความรับผิดตํอทรัพย์สิน อยํางไรก็ตาม
จากตัวบทมาตรา 39 ของพระราชบัญญัติโรงแรม ระบุไว๎ชัดเจนถึงสิทธิในการปฏิเสธไมํรับบุคคลที่ประสงค์
จะ “เข๎าพัก” ดังนั้นสิทธิในการปฏิเสธของโรงแรมจึงมีขอบเขตเฉพาะแขกที่มาพักเทํานั้น หากโรงแรม
ปฏิเสธการให๎บริการอื่นๆ เชํน ประชุมสัมมนา อาหารและเครื่องดื่ม ดังนี้ก็ไมํสามารถอ๎างสิทธิตามมาตรา
39 ได๎
5. ถึงแม๎วําผู๎ประกอบธุรกิจโรงแรมจะอ๎างหลักกฎหมายตามพระราชบัญญัติโรงแรมเพื่อปฏิเสธการ
ให๎บริการที่พักกับแขกบางลักษณะก็ตาม แตํก็ยังมีประเด็นวํา กฎหมายที่ให๎สิทธิปฏิเสธบริการเชํนนี้ ขัดตํอ
หลักความเสมอภาคและเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไมํ ทั้งนี้เนื่องจากวํา แม๎หลักดังกลําวตามรัฐธรรมนูญนั้นมี
ไว๎สําหรับการที่เอกชนอ๎างสิทธิตํอรัฐ แตํในกรณีการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในบริบทของภาคเอกชนหรือภาค
ธุรกิจนั้น ผู๎เสียหายที่ถูกกระทบสิทธิไมํสามารถนําหลักการตามรัฐธรรมนูญไปฟูองหรือไปอ๎างยันตํอ
หนํวยงานภาครัฐ อยํางไรก็ตาม ภาครัฐมีหน๎าที่ต๎องบัญญัติกฎหมายเพื่อห๎ามการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้น
ดังนั้น เมื่อพิจารณาตามกรอบแนวคิดนี้ จะเห็นได๎วํา พระราชบัญญัติโรงแรมโดยเฉพาะมาตรา 39 ที่ให๎สิทธิ
โรงแรมปฏิเสธการเข๎าพักด๎วยเหตุแหํงการเป็นโรคบางอยําง เป็นการปฏิบัติที่แตกตํางกันระหวํางแขกที่
ประสงค์เข๎าพักซึ่งไมํเป็นโรค กับ แขกที่ประสงค์เข๎าพักแตํเป็นโรค อยํางไรก็ตาม ต๎องพิจารณาตํอไปวํา การ
ปฏิบัติที่แตกตํางกันระหวํางบุคคลที่เป็นโรคกับที่ไมํเป็นโรคนั้น มีเหตุผลอันสมควรอยํางใดรองรับหรือไมํ ซึ่ง
ในกรณีผู๎ประสงค์เข๎าพักเป็นกลุํมผู๎ปุวยเอดส์ ดังนี้ก็จะต๎องพิจารณาเหตุผลอันสมควรโดยชั่งน้ําหนักกับ
560 วิธีเฉพาะสําหรับเจ๎าสํานักโรงแรม วางหลักเกี่ยวข๎องกับการดําเนินกิจการโรงแรมเฉพาะกรณีความรับผิดของโรงแรมตํอ
ทรัพย์สินที่แขกอาศัยได๎พามา
561
คณาธิป ทองรวีวงศ์, กฎหมายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว (กรุงเทพมหานคร: นิติธรรม, 2558), หน๎า 541-543.

