Page 150 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 150

126


                         นายจ๎างซึ่งมีลูกจ๎างอยํางน๎อย 30 คน จะต๎องมีแผนส าหรับมาตรการที่จ าเป็นเพื่อการสํงเสริมความ

                  เทําเทียมกัน โดยต๎องให๎ลูกจ๎างหรือผู๎แทนมีสํวนรํวมในการก าหนดมาตรการดังกลําวด๎วย”
                         นอกจากก าหนดหน๎าที่ให๎หนํวยงานและองค์กรที่เกี่ยวข๎องท าการสํงเสริมความเทําเทียมกันแล๎ว

                  กฎหมายยังวางหลักห๎ามเลือกปฏิบัติ (Prohibition of Discrimination) โดยจ าแนกการเลือกปฏิบัติอยําง

                  ละเอียดดังนี้
                                                                         42
                         - หลักทั่วไปของการห๎ามเลือกปฏิบัติ: กฎหมายวางหลักวํา
                         “ห๎ามเลือกปฏิบัติบุคคลใดด๎วยเหตุแหํง อายุ ถิ่นก าเนิด สัญชาติ ภาษา ศาสนา ความเชื่อ ความ

                  คิดเห็น กิจกรรมทางการเมือง กิจกรรมการค๎า ความสัมพันธ์ทางครอบครัว สถานะทางสุขภาพ ความพิการ
                  รสนิยมทางเพศ หรือ คุณลักษณะอื่นๆของบุคคล การเลือกปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่ต๎องห๎ามโดยไมํค านึงวําการ

                  เลือกปฏิบัตินั้นอยูํบนพื้นฐานข๎อเท็จจริงหรือข๎อสมมุติฐานเกี่ยวกับบุคคลนั้นเองหรือบุคคลอื่น
                         นอกจากการเลือกปฏิบัติโดยตรงและโดยอ๎อมแล๎ว การคุกคาม (Harassment) การไมํจัดให๎มีการ

                  ชํวยเหลืออยํางสมเหตุผล (Reasonable Accommodation) ถือเป็นการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายนี้ด๎วย”
                                                                         43
                         มาตรการเชิงบวก (Positive Action): กฎหมายวางหลักวํา
                         “การปฏิบัติแตกตํางกันอยํางได๎สัดสํวน (Proportionate  Different  Treatment)  ด๎วย

                  วัตถุประสงค์เพื่อท าให๎เกิดความเทําเทียมกันเชิงพฤตินัย (De Facto Equality) หรือเพื่อปูองกันหรือขจัด
                  เสียซึ่งความเสียเปรียบอันสืบเนื่องจากการเลือกปฏิบัติ ไมํถือวําเป็นการเลือกปฏิบัติ”
                                                                  44
                         การเลือกปฏิบัติโดยตรง (Direct Discrimination) : กฎหมายวางหลักวํา

                         “การเลือกปฏิบัติโดยตรงเกิดขึ้นเมื่อ บุคคลได๎รับการปฏิบัติในลักษณะอันเป็นที่พึงพอใจน๎อยกวํา
                  บุคคลอื่นซึ่งได๎รับการปฏิบัติหรือจะได๎รับการปฏิบัติในสถานการณ์ที่เปรียบเทียบกันได๎ (comparable

                  situation)”
                                                                                            45
                         เหตุผลของการปฏิบัติที่แตกต่างกัน (Justification for Different Treatment) : กฎหมายวาง
                  หลักวํา
                         “การปฏิบัติที่แตกตํางกัน ไมํถือเป็นการเลือกปฏิบัติ หากการปฏิบัตินั้นอยูํบนพื้นฐานของกฎหมาย

                  และเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ยอมรับได๎ (Acceptable Objective) และมาตรการที่จะน าไปสูํวัตถุประสงค์

                  นั้นเป็นมาตรการที่ได๎สัดสํวน”
                         ส าหรับเหตุผลของการปฏิบัติที่แตกตํางกันในกรณีการจ๎างแรงงานนั้นได๎แยกก าหนดไว๎เป็นการ

                  เฉพาะ ซึ่งมีหลักวํา

                         “การปฏิบัติที่แตกตํางกันในการจ๎างแรงงานหรือการท างานในภาครัฐ ถือวํามีเหตุผลสมควร หาก
                  เป็นกรณีเกี่ยวกับการก าหนดคุณสมบัติหรือเงื่อนไขที่ส าคัญและจ าเป็นอยํางแท๎จริงส าหรับอาชีพและการ



                  42
                    มาตรา 8
                  43
                    มาตรา 9
                  44
                    มาตรา 10
                  45  มาตรา 11
   145   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155