Page 113 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 113

89


                         นอกจากนี้ บทบัญญัติดังกลําวข๎างต๎นนั้น ไมํใช๎บังคับในกรณีการปฏิเสธ ข๎อจ ากัด การระบุ

                  คุณสมบัติเฉพาะ ที่อยูํบนพื้นฐานของความจ าเป็นทางอาชีพนั้นด๎วยความสุจริต (Bona       fide
                  occupational requirement)



                         การปรับใช้หลักการห้ามเลือกปฏิบัติกับกรณีการโฆษณาที่เกี่ยวกับการจ้างแรงงาน
                  (Applications and Advertisement re Employment) (มาตรา 8)

                         ห๎ามมิให๎บุคคลใดใช๎หรือเผยแพรํแบบฟอร์มในการสมัครงานหรือการประกาศ การโฆษณาใดๆที่

                  เกี่ยวกับการจ๎างแรงงาน หรือการก าหนดเงื่อนไขใดๆเกี่ยวกับผู๎สมัครงานไมํวําด๎วยวาจาหรือลายลักษณ์
                  อักษร ในกรณีตํอไปนี้

                         - แสดงโดยตรงหรือโดยอ๎อมถึงข๎อจ ากัด คุณสมบัติเฉพาะ คุณสมบัติอันเป็นที่ต๎องการเป็นพิเศษ
                  อันบํงชี้ถึงการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานแหํงเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ สีผิว เพศ ความพิการทางรํางกาย

                  ความพิการทางจิตใจ อายุ บรรพบุรุษ ชาติก าเนิด สถานภาพการสมรส รายได๎ สถานะทางครอบครัว
                  รสนิยมทางเพศ ของบุคคลนั้น

                         - ก าหนดให๎ผู๎สมัครงานต๎องระบุข๎อมูลใดๆเกี่ยวกับ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ สีผิว เพศ ความ

                  พิการทางรํางกาย ความพิการทางจิตใจ อายุ บรรพบุรุษ ชาติก าเนิด สถานภาพการสมรส รายได๎ สถานะ
                  ทางครอบครัว รสนิยมทางเพศ ของบุคคลนั้น

                         บทบัญญัติข๎างต๎นไมํใช๎บังคับกับการปฏิเสธ การจ ากัด การก าหนดคุณสมบัติ ที่อยูํบนพื้นฐานของ

                  ความจ าเป็นทางอาชีพนั้นด๎วยความสุจริต (Bona Fide Occupational Requirement)


                         กลไกการบังคับใช้กฎหมาย
                         พระราชบัญญัตินี้จัดตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (Alberta  Human  Rights  Commission)

                  ขึ้น โดยผู๎เสียหาย รวมทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนคนใดคนหนึ่ง ผู๎มีเหตุเชื่อวําเกิดการกระท าฝุาฝืนกฎหมาย
                  นี้ สามารถยื่นค าร๎อง (Complaint) ไปคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได๎ (มาตรา 20 (1))

                         เมื่อคณะกรรมการได๎รับค าร๎องแล๎วจะสํงไปยังผู๎อ านวยการ (Director) ซึ่งมีอ านาจด าเนินการระงับ

                  ข๎อพิพาทด๎วยการไกลํเกลี่ย หากไมํสามารถตกลงกันได๎ในชั้นนี้ ผู๎อ านวยการมีอ านาจตั้งผู๎ไตํสวน
                  (Investigator) (มาตรา 21)

                         ผู๎อ านวยการสามารถยกค าร๎อง หรือยุติกระบวนการ หรือรายงานตํอไปยัง ประธานคณะกรรมการ

                  และคณะผู๎พิจารณา (Chief of the Commission and Tribunals หรือ CC&T) (มาตรา 22)
                         ผู๎ไตํสวน (Investigator) มีอ านาจสั่งให๎ผู๎เกี่ยวข๎องให๎ข๎อมูลด๎วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร รวมทั้ง

                  มีอ านาจเข๎าไปตรวจสอบสถานที่ที่เกี่ยวข๎อง (มาตรา 23) แตํอ านาจดังกลําวจะอยูํภายใต๎การตรวจสอบของ
                  ศาลชั้นต๎น (Provincial Court) โดยเฉพาะการเข๎าไปในสถานที่ที่เกี่ยวข๎องนั้นผู๎ไตํสวนต๎องแสดงหลักฐานที่

                  เกี่ยวข๎องให๎ศาลพิจารณาออกค าสั่งอนุญาตให๎ผู๎ไตํสวนด าเนินการ (มาตรา 24)
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118