Page 107 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 107
(๒) ให้ความรู้หลักการสิทธิมนุษยชนและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนแก่พนักงานเจ้าหน้าที่
และบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ ในกระบวนการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในด้านการรับค�าร้อง และการตรวจ
สอบข้อเท็จจริง อีกทั้งให้ความรู้หลักการสิทธิมนุษยชนและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีกิจกรรม
การจัดท�าหลักสูตรการฝึกอบรม การฝึกอบรม การบรรยาย การประชุมกลุ่มย่อยปฏิบัติการ พร้อมทั้งสรุปผลการประชุม
ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ณ โรงแรม ซี เอส ปัตตานี ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่ใน
พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และผู้ปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ
จังหวัดสงขลา จ�านวน ๓๕ คน
(๓) ให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม หรือย�่ายีศักดิ์ศรี (CAT) แก่เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย สืบเนื่องจากที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเกี่ยวกับการกระท�าทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษ
อื่นที่ไร้มนุษยธรรมกับผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การปฏิบัติหน้าที่
ของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงหลายค�าร้อง ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายการใช้ก�าลังบังคับที่ไม่เหมาะสม การใช้มาตรการต่าง ๆ กับ
ผู้ต้องสงสัยเพื่อให้ได้ข้อสนเทศในคดีอาญาหรือเพื่อสอบสวนขยายผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังขาดมาตรการที่มีประสิทธิผล
ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระท�าทรมานโดยค�านึงถึงพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี ส�านักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงก�าหนดจัดโครงการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้าน
การทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรีให้กับบุคลากรในกระบวนการ
ยุติธรรม จ�านวน ๔๕๐ คน ซึ่งก�าหนดจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐
๒.๑.๒ โครงการขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนในการส่งเสริม ปกป้อง คุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภายใต้แผนบูรณาการ
จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์) ผ่านกิจกรรมการจัดเวทีสาธารณะและการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องปกป้อง
และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากปัญหาการค้ามนุษย์ จ�านวน ๓ ครั้ง ประกอบด้วย
(๑) การจัดสัมมนาเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์
ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ๖ โรงแรมเซนทราศูนย์ราชการและคอนเวนชัน
เซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และศักยภาพของภาคีเครือข่ายในการ
ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานต่างด้าวและต่อต้านการค้ามนุษย์ การสร้างเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในการ
ป้องกันและแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน รวมทั้งแสวงหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานต่างด้าว
และการค้ามนุษย์ในพื้นที่
ผลส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
การจัดการสัมมนาเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ มี
ผู้เข้าร่วมการสัมมนา จ�านวน ๓๒๔ คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และเครือข่ายภาคประชาชน
ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ โดยข้อค้นพบที่ได้จากการจัดสัมมนา พบว่า กลุ่มเป้าหมายตระหนัก
ถึงปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แต่ยังขาดความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนที่จะน�ามาประยุกต์ใช้ใน
การท�างานเพื่อปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ และยังขาดการประสานการ
ท�างานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกันเอง ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับองค์กรพัฒนา
106 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐