Page 111 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 111
ผลส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
การจัดงานสัมมนาวิชาการเพื่อเผยแพร่และขับเคลื่อน “หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของ
สหประชาชาติในประเทศไทย (UN Guiding Principles on Business and Human Rights)” ได้รับความสนใจจาก
ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา จ�านวน ๖๑๐ คน ประกอบด้วย
ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการก�ากับดูแลการประกอบการของภาคเอกชน องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ
ผู้ประกอบการเอกชน ภาคประชาสังคม และภาควิชาการในประเทศ และผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น
คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และผู้แทนคณะทูตต่างประเทศในประเทศไทย ตลอดจนสื่อมวลชน การสัมมนาครั้งนี้นอกจากท�าให้ผู้ประกอบการของ
ไทยได้ทราบและตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจ รวมถึง
ความส�าคัญของการเคารพสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะแสดงให้นานาประเทศ
เห็นว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายให้ความส�าคัญกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในทุกมิติ รวมถึงการประกอบธุรกิจ
เอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดท�าแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนโดยกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็น
ความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในการด�าเนินการตามข้อเสนอแนะจากการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
ตามกระบวนการ Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ประเทศไทยได้
แถลงให้การยอมรับเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน
หลักการชี้แนะฯ ไปสู่การปฏิบัติ
ภายหลังการจัดงานสัมมนาฯ หลายภาคส่วนได้ให้ความส�าคัญกับงานสัมมนาดังกล่าว มีการประชาสัมพันธ์และ
เผยแพร่ข้อมูลในหลายช่องทาง ดังนี้
(๑) หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ของหน่วยงาน ได้แก่ เว็บไซต์ของรัฐบาลไทย กระทรวง
การต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และส�านักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ โดย
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงงานสัมมนาและประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
(๒) ภาคธุรกิจได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ของหน่วยงาน อาทิ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน
(กกร.) ธนาคารกรุงไทย CP E-News และทาง Facebook ของเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย เป็นต้น
(๓) ภาคประชาสังคม โดย Asian Forum for Human Rights and Development (FORUM-ASIA) ได้กล่าวถึง
งานสัมมนาและข้อกังวลในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนผ่านทางเว็บไซต์ โดยผู้อ�านวยการรณรงค์แม่น�้านานาชาติไทยและ
เมียนมา ได้หยิบยกเรื่องหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์
บางกอกโพสต์ด้วย
(๔) สื่อมวลชนที่ได้เผยแพร่ข้อมูล เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เว็บไซต์ของส�านักข่าวต่าง ๆ ได้แก่ TNN 24 ประชาไท
มติชน ผู้จัดการ ประชาชาติธุรกิจ ส�านักข่าวไทย สมาคมผู้สื่อข่าวไทย - จีน และโพสต์ทูเดย์ เป็นต้น
(๕) ส�านักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) ประจ�าภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ และ UNDP Asia Pacific ได้เผยแพร่งานสัมมนาดังกล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ของหน่วยงาน
และสถานทูตรัสเซียได้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของสถานทูตเช่นเดียวกัน
(๖) ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน : มุ่งไปข้างหน้าด้วยแผนปฏิบัติ
การในประชาคมอาเซียน เมื่อวันที่ ๑ – ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ Mr. Michael Addo ประธาน
คณะท�างานธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ได้แสดงความชื่นชมพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
110 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐