Page 101 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 101
๒๕๕๗ ท�าให้ราษฎรจ�านวนมากได้รับความ
เดือดร้อนจากการปฏิบัติการดังกล่าว โดย
ราษฎรกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ คุกคาม
ต่อชีวิต และเสรีภาพ พร้อมทั้งยึดท�าลาย
พืชผลของราษฎรโดยปราศจากการพิสูจน์
ข้อเท็จจริง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติพิจารณาค�าร้องข้างต้นแล้วเห็นว่า เป็น
ประเด็นเกี่ยวกับการด�าเนินการตามกฎหมาย
ของภาครัฐในเรื่องการบริหารจัดการที่ดินและ
ทรัพยากรป่าไม้ที่อาจกระทบต่อการด�ารงชีวิต
ของประชาชน และมีปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวข้อง
กันหลายประการ ได้แก่ ข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ถูกจ�ากัดโดยกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อ
คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ข้อพิพาทเกี่ยวกับการด�าเนินการตามนโยบายหรือมติของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับ
การจัดการที่ดินของรัฐประเภทที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่อุทยานแห่งชาติ และข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้อ�านาจทางปกครอง
ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจับกุมและบังคับการตามบทบัญญัติที่มีโทษทางอาญา
การด�าเนินการ
ในทรรศนะของบทบัญญัติแห่งกฎหมายไทย “ที่ดิน” และ “ทรัพยากรธรรมชาติ” โดยหลักแล้วถูกก�าหนดให้
เป็นของรัฐซึ่งสามารถแสวงหาประโยชน์หรือใช้สอยเพื่อการจัดท�าบริการสาธารณะ โดยรัฐจะเป็นเจ้าของ (Ownership)
หรือสิทธิครอบครอง (Possessory Right) ตามระบบกรรมสิทธิ์แก่พลเมืองภายใต้กฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ รวม
ทั้งอาจให้ท�าประโยชน์บนที่ดินโดยไม่ให้สิทธิ์แก่พลเมืองภายใต้กฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ รวมทั้งอาจท�าให้ประโยชน์
บนที่ดินโดยไม่ให้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของครอบครอง ส�าหรับที่ดินสงวนหวงห้ามประเภทป่า นอกจากพลเมืองจะไม่สามารถ
เข้าครอบครองหรือยึดถือได้แล้วรัฐยังตรากฎหมายที่มีโทษทางอาญาเข้าควบคุมพื้นที่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของข้อถกเถียงเรื่อง
การบุกรุกป่าในทรรศนะของรัฐ น�ามาสู่การก�าหนดมาตรการแก้ไขปัญหาของภาครัฐหลายวาระ ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไข
ปัญหาเป็นไปอย่างมีระบบ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน จึงได้จัดท�าข้อเสนอแนะมาตรการหรือ
แนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อเสนอในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่ง
ใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับการจัดการที่ดินของรัฐกระทบ
ต่อสถานภาพแห่งสิทธิของราษฎรและประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก�าหนดเขตพื้นที่อนุรักษ์เป็นการจ�ากัด
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในทรัพย์สินของเอกชน ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา
๒ ประกอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔ และเป็นการจ�ากัดสิทธิในเสรีภาพในการโยกย้ายและเลือก
ถิ่นที่อยู่ของพลเมืองในราชอาณาจักร ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ดังนั้น
จึงมีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้
ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
๑) คณะรัฐมนตรีควรก�าหนดแนวทางปฏิบัติและสนับสนุนส่วนราชการเกี่ยวกับการจัดการที่ดินของรัฐประเภท
ที่ป่า ที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่อุทยานแห่งชาติ และที่อนุรักษ์อื่น ๆ ดังนี้
100 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐