Page 93 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 93

ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ” โดยหลังจำก
                                                                       พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรกระท�ำควำมผิดเกี่ยวกับ
                                                                       คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ คดีควำม
                                                                       ที่ถูกตั้งข้อหำตำมมำตรำ ๑๔ แห่งพระรำช

                                                                       บัญญัติว่ำด้วยกำรกระท�ำควำมผิดเกี่ยวกับ
                                                                       คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับเดิมต่ำงทยอยสิ้นสุดคดี
                                                                       จำกกำรสั่งไม่ฟ้องในชั้นอัยกำร ถือเป็นแนวโน้ม
                                                                       ที่ดีส�ำหรับกำรบังคับใช้มำตรำ  ๑๔  ของ

                                                                       พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรกระท�ำควำมผิดเกี่ยวกับ
                                                                       คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่ ในจ�ำนวนนี้มีคดีที่
                                                                       อยู่ในควำมรับผิดชอบของศูนย์ทนำยควำม
                                                                       เพื่อสิทธิมนุษยชน ๒ คดี  และสอดคล้องกับ
                                                                                            ๗๐
                                                                       ข้อเสนอแนะบำงประกำรของ กสม. เมื่อปี ๒๕๕๙
                ขณะเดียวกันเสรีภำพทำงวิชำกำรซึ่งมิได้เกี่ยวข้องเฉพำะกับเสรีภำพในกำรแสดงควำมคิดเห็นเท่ำนั้น แต่ยังเกี่ยวข้อง
           ถึงเสรีภำพที่จะแสวงหำ รับ และเผยแพร่ข้อมูลข่ำวสำรและควำมคิดทุกประเภทโดยไม่ค�ำนึงถึงพรมแดนด้วย แม้กฎหมำย
           ระหว่ำงประเทศไม่ได้ประกันเสรีภำพทำงวิชำกำรไว้ แต่ในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ องค์กำรเพื่อกำรศึกษำ วิทยำศำสตร์ และวัฒนธรรม

           แห่งสหประชำชำติ (UNESCO) ได้มีข้อเสนอแนะเรื่อง สถำนะของบุคลำกรผู้สอนในระดับอุดมศึกษำ (Recommendation
           concerning the Status of Higher Education Teaching Personnel) โดยให้ค�ำจ�ำกัดควำม หมำยถึง สิทธิของบุคลำกรที่จะ
           ไม่ถูกกำรบีบบังคับ เสรีภำพในกำรสอน กำรแลกเปลี่ยนอภิปรำย เสรีภำพ กำรท�ำวิจัย กำรเผยแพร่และตีพิมพ์ผลงำนเหล่ำนั้น
           เสรีภำพในกำรแสดงควำมเห็นอย่ำงเสรีเกี่ยวกับสถำบัน หรือระบบกำรท�ำงำนขององค์กร เสรีภำพจำกกำรตรวจสอบ

           จำกสถำบัน และเสรีภำพที่จะมีส่วนร่วมในองค์กรวิชำชีพด้ำนกำรศึกษำ บุคลำกรในสถำบันระดับอุดมศึกษำควรมีสิทธิที่จะ
           ท�ำหน้ำที่ได้อย่ำงเต็มที่โดยปรำศจำกกำรถูกเลือกปฏิบัติ และควำมกังวลจำกกำรปรำบปรำม คุกคำมจำกรัฐหรือแหล่งอื่นใด
                                                                                                           ๗๑
           และรัฐธรรมนูญฯ ได้ประกันเสรีภำพทำงวิชำกำรไว้ในมำตรำ ๓๔ วรรคสอง ซึ่งบัญญัติให้ “เสรีภำพทำงวิชำกำรย่อมได้รับ
           ควำมคุ้มครองแต่กำรใช้เสรีภำพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้ำที่ของปวงชนชำวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชนและต้องเคำรพ

           และไม่ปิดกั้นควำมเห็นต่ำงของบุคคลอื่น” โดยสถำนกำรณ์ที่ส�ำคัญของเสรีภำพทำงวิชำกำรในปี ๒๕๖๐ พบว่ำ กำรชูป้ำย
           แสดงข้อควำมว่ำ “เวทีวิชำกำร ไม่ใช่ค่ำยทหำร” เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎำคม ๒๕๖๐ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้ำนำนำชำติ
           ต�ำบลช้ำงเผือก อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภำยหลังกลุ่มผู้ชูป้ำยดังกล่ำวถูกด�ำเนินคดีข้อหำร่วมกันชุมนุมมั่วสุมทำงกำรเมืองตั้งแต่
           ห้ำคนขึ้นไป ฝ่ำฝืนค�ำสั่งหัวหน้ำ คสช. ที่ ๓/๒๕๕๘  จนน�ำมำสู่กำรเรียกร้องให้ยุติกำรด�ำเนินคดีแก่บุคคลดังกล่ำวเนื่องจำก
                                                   ๗๒
           เห็นว่ำ กำรชูป้ำยแสดงข้อควำมว่ำ “เวทีวิชำกำร ไม่ใช่ค่ำยทหำร” ไม่ได้เกินขอบเขตกฎหมำย และรัฐธรรมนูญได้ให้ควำม
           คุ้มครองเสรีภำพทำงวิชำกำร  และ กสม. ห่วงกังวลต่อเสรีภำพทำงวิชำกำรโดยมีควำมเห็นว่ำ กำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหน้ำที่
                                  ๗๓
           กรณีกำรแจ้งควำมด�ำเนินคดีต่อนักวิชำกำร และประชำชนที่แสดงควำมเห็นโดยสุจริตในเวทีวิชำกำร
                                                                                            ๗๔







           ๗๐  ศูนย์ทนำยควำมเพื่อสิทธิมนุษยชน. สืบค้นจำก www.tlhr2014.com/th/?p=5795
           ๗๑  The Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights. (2017). CCPR General Comment No.35 Article 9 (Liberty and security of Person). Retrieved
             from http://unesdoc.unesco.org/images/0011/001102/110220e.pdf#page=32
           ๗๒  ศูนย์ทนำยควำมเพื่อสิทธิมนุษยชน. (๒๕๖๐). แจ้งข้อหำชุมนุมทำงกำรเมืองคดี “เวทีวิชำกำรไม่ใช่ค่ำยทหำร” เหตุอำจก่อกระแสต่อต้ำน รบ.ในเชิงลบ. สืบค้นจำก www.tlhr2014.com/
             th/?p=4941
           ๗๓  ไทยโพสต์. (๒๕๖๐). ปริญญำแนะยุติคดีติดป้ำย”เวทีวิชำกำรไม่ใช่ค่ำยทหำร. สืบค้นจำก www.thaipost.net/?q=node/34307
           ๗๔  ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ. (๒๕๖๐). ข่ำวแจก เรื่อง กสม. ห่วงกังวลต่อเสรีภำพทำงวิชำกำร. สืบค้นจำก www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx-
             ?NewsID=9600000086447

           92 |  รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98