Page 163 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 163

๑๔๖




                                         (๒.๑) กรณีหลักทั่วไป
                                         หลักการไม่เลือกปฏิบัติและหลักการไร้ความคุ้มกัน ได้รับการรับรองไว้ใน

                   ธรรมนูญกรุงโรมฯ โดยก าหนดเป็น “หลักทั่วไป”

                                         ■ หลักทั่วไปเกี่ยวกับกำรไม่เลือกปฏิบัติ
                                                          ๓๗๖
                                         ข้อ ๒๗ วรรคหนึ่ง  โดยก าหนดให้ใช้บังคับธรรมนูญศาลฯ ต่อบุคคล
                   ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ บนพื้นฐานของสถานะทางการ (official
                   capacity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะทางการในฐานะประมุขของรัฐหรือผู้น ารัฐบาล (Head of State or

                   Governement)   สมาชิกของรัฐบาลหรือรัฐสภา ผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้ง (an       elected
                   representative) หรือเจ้าหน้าที่รัฐบาล (a  government  official) ไม่ได้รับการยกเว้นจากความ
                   รับผิดทางอาญาตามธรรมนูญศาลฯ นี้ไม่ว่ากรณีใด และจะไม่เป็นมูลเหตุให้ลดหย่อนโทษ
                                         ■  หลักกำรไร้ควำมคุ้มกัน

                                         ธรรมนูญกรุงโรมฯ ได้รับรองหลักการไร้ความคุ้มกันไว้ในข้อ ๒๗ วรรคสอง โดย
                   ก าหนดว่าความคุ้มกัน (immunities) หรือระเบียบว่าด้วยวิธีพิจารณาความพิเศษ (special procedural
                   rules) ที่ใช้บังคับกับสถานะทางการของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นไปตามกฎหมายภายใน
                   ของรัฐหรือกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องไม่ขัดขวางการใช้เขตอ านาจศาลอาญาระหว่างประเทศเหนือ

                   บุคคลนั้น
                                         (๒.๒) กรณีหลักควำมรับผิดของเจ้ำพนักงำน
                                         นอกจากหลักทั่วไปเกี่ยวกับการไม่เลือกปฏิบัติและการไร้ความคุ้มกันดังกล่าว
                   ข้างต้นแล้ว ธรรมนูญกรุงโรมฯ ยังได้ก าหนดหลักความรับผิดของเจ้าพนักงานไว้เป็นการเฉพาะอีกด้วย

                   ทั้งในระดับผู้บัญชาการหรือผู้บังคับบัญชา และหลักความรับผิดของเจ้าพนักงานระดับปฏิบัติการ
                                         ■  หลักควำมรับผิดของผู้บัญชำกำรหรือผู้บังคับบัญชำ
                                         ธรรมนูญกรุงโรมฯ จะต้องบังคับใช้แก่บุคคลทั้งหลายโดยไม่เลือกปฏิบัติและไร้

                   ความคุ้มโดยไม่เกี่ยวข้องกับสถานะทางการ ดังนั้น ผู้บัญชาการก็ดี หรือผู้บังคับบัญชาก็ดี
                   จึงต้องรับผิดชอบทางอาญาต่ออาชญากรรมในเขตอ านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ธรรมนูญ
                   กรุงโรมฯ ได้ก าหนดหลักความรับผิดในส่วนนี้ออกเป็นสองกรณี ได้แก่ กรณีผู้บัญชาการทหาร และกรณี
                   ผู้บังคับบัญชาในกรณีอื่น
                                         - กรณีผู้บัญชำกำรทหำร
                                                        ๓๗๗
                                         ข้อ ๒๘ วรรคหนึ่ง  แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ ก าหนดให้ผู้บัญชาการทหาร (a
                   military  commander) หรือบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่โดยพฤตินัยเสมือนผู้บัญชาการทหารต้องรับผิดทาง
                   อาญาต่ออาชญากรรมภายในเขตอ านาจศาลอาญาระหว่างประเทศซึ่งกระท าโดยกองก าลัง (forces)

                   ภายใต้การบังคับบัญชาและการควบคุมอย่างแท้จริง หรือภายใต้อ านาจหน้าที่และการควบคุมอย่างแท้จริง
                   แล้วแต่กรณี อันเป็นผลมาจากการที่บุคคลนั้นมิได้ควบคุมกองก าลังดังกล่าวอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ภายใต้
                   เงื่อนไขสองประการ คือ ประกำรที่หนึ่ง ผู้บัญชาการทหารหรือบุคคลนั้นรู้หรือควรจะได้รู้ถึงพฤติการณ์ใน
                   ขณะนั้นว่ากองก าลัง (ที่อยู่ภายใต้อ านาจควบคุมของตน) ก าลังประกอบอาชญากรรมหรือจะประกอบ



                          ๓๗๖
                              Rome Statute, Article 27 Irrelevance of official capacity, paragraph 1.
                          ๓๗๗  Rome Statute, Article 28 Responsibility of commanders and other superiors, paragraph 1.
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168