Page 87 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 87

AMM การจัดโครงสร้างลักษณะดังกล่าวท�าให้เกิดประเด็นการขาดความเชื่อมโยง ความร่วมมือและการประสานงานกับ
          องค์กรในด้านสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะองค์กรคณะกรรมาธิการอาเซียน

          ว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก และคณะกรรมการอาเซียนด้านแรงงานอพยพ ซึ่งยังขาดการ
          ประสานงานในด้านการวางแผนงานโครงการและการด�าเนินความสัมพันธ์กับองค์กรภายนอกประชาคม เพื่อป้องกันความ
          ซ�้าซ้อนและก�าหนดแนวทางให้โครงการด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมีประสิทธิภาพ



                             ๕. การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการท�างาน
                                องค์กรภาคประชาสังคม (Civil Society Organisations) ด้านสิทธิมนุษยชนในอาเซียนมี

          ความตื่นตัวในการขับเคลื่อนการพัฒนาระดับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคอย่างมาก และเรียกร้อง
          การมีส่วนร่วมในการท�างานกับคณะกรรมาธิการอยู่เสมอ ทั้งนี้ กฎบัตรอาเซียนก�าหนดว่าอาเซียนอาจติดต่อกับองค์กร

          ที่สนับสนุนกฎบัตรอาเซียนได้และก�าหนดให้คณะผู้แทนถาวร (Committee of Permanent Representatives) จัดท�า
          หลักเกณฑ์การติดต่อโดยค�าแนะน�าของเลขาธิการอาเซียน และต่อมาคณะผู้แทนถาวรได้จัดท�าเอกสารแนวทางการรับรอง
          องค์กรภาคประชาสังคม (Guidelines on Accreditation of Civil Society Organisations) ซึ่งองค์กรที่ได้รับการรับรอง

          จะมีสิทธิ (Privileges) ตามที่ก�าหนดไว้ เช่น การใช้ค�าว่า “อาเซียน” ในชื่อองค์กร การจัดท�าข้อเสนอโครงการเพื่อรับ
          การสนับสนุนด้านการเงินจากองค์กรภายนอกผ่านส�านักเลขาธิการอาเซียน และการจัดท�าข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อ

          องค์กรในอาเซียน  เป็นต้น  ส�าหรับคณะกรรมาธิการเองได้มีการหารือเกี่ยวกับความจ�าเป็นและกระบวนการจัดท�าเอกสาร
          แนวทางการมีส่วนร่วมหรือการติดต่อระหว่างองค์กรภาคประชาสังคมและคณะกรรมาธิการตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และ
          ได้พิจารณาปรับปรุงร่างแนวทางหลายครั้ง แต่เมื่อครบวาระการด�ารงต�าแหน่งของผู้แทนในคณะกรรมาธิการสมัยแรก

          ท�าให้การพิจารณาร่างแนวทางสะดุดลง ประเด็นที่ส�าคัญคือปัจจุบันองค์กรภาคประชาสังคมหลายแห่งต้องการติดต่อ
          โดยตรงกับคณะกรรมาธิการเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับงานด้านสิทธิมนุษยชนในอาเซียน แต่การ
          ขาดหลักเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติขององค์กรเหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นที่ท�าให้ไม่สามารถติดต่อประสานงาน

          ระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้น ยังต้องพิจารณาว่า แนวทางที่คณะผู้แทนถาวรจัดท�าขึ้นเหมาะสมหรือสอดคล้องกับ
          ลักษณะการติดต่อประสานงานระหว่างองค์กรภาคประชาสังคมและคณะกรรมาธิการในด้านการส่งเสริมและคุ้มครอง
          สิทธิมนุษยชนซึ่งอาจต้องเปิดโอกาสให้องค์กรที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางหรือไม่ เมื่อมีการแต่งตั้งผู้แทน AICHR

          ในรอบที่สอง ผู้แทนไทยใน AICHR ได้ริเริ่มการปรับปรุงร่างเอกสารแนวทางความสัมพันธ์ระหว่าง AICHR และ CSO
          (Guidelines on AICHR’s Relations with CSOs) ซึ่ง AICHR ได้ใช้เวลาตลอดปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เจรจาและได้ลงมติรับรอง

                                                 52
          แนวทางร่างเอกสารดังกล่าวในต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๘  และในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้มีการรับรอง CSO แล้วจ�านวน ๕ แห่ง

                             ๖. ขอบเขตอ�านาจหน้าที่และทิศทางการท�างาน

                                การเปิดประชาคมอาเซียนในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จะน�ามาสู่การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ เงินทุน
          และประชากรในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มภูมิภาคลุ่มน�้าโขง ซึ่งรวมประเทศไทย ลาว เวียดนาม เมียนมาร์

          และกัมพูชา ซึ่งย่อมน�ามาสู่ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่จะมีประเภทของปัญหาที่มากขึ้นและทวีความรุนแรง


                 52  แนวทางความสัมพันธ์ระหว่างคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชนกับองค์กรภาคประสังคม

          (Guidelines on AICHR’s Relations with CSOs) ซึ่ง AICHR ได้ใช้เวลาตลอดปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เจรจาและได้ลงมติรับรองแนวทางร่าง
          เอกสารดังกล่าวในต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๘

        86
               ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92