Page 55 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 55
39
ขอบเขตอ�านาจหน้าที่ในการยึดถือสิทธิมนุษยชนเฉพาะที่เกี่ยวกับสิทธิสตรีและเด็ก แต่สิ่งที่เหมือนกับ AICHR และถือเป็น
ประเด็นที่ท�าให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยกลไกสิทธิมนุษยชนในอาเซียนยังขาดประสิทธิภาพหรือยังแตกต่างจาก
กระบวนการที่ใช้ในภูมิภาคหลักอื่น ๆ ดังที่ได้กล่าวถึงในบทที่ ๒ คือ ทั้ง ACWC และ AICHR ไม่มีข้อก�าหนดที่ชัดเจนเกี่ยว
กับการรับเรื่องราวร้องเรียนกรณีมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศสมาชิก
และเนื่องจากทั้ง ACWC และ AICHR ต่างมีภารกิจในด้านสิทธิมนุษยชน ในเชิงโครงสร้างจึงมี
ประเด็นการประสานงานและการร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความซ�้าซ้อน (Duplication) และสร้างเครือข่ายการส่งเสริม
และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคอาเซียน อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการจัดตั้งองค์กรทั้งสอง ยังขาดการประสานงาน
และสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากในการท�าหน้าที่ของ AICHR ในวาระแรก (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕) AICHR
ถือสถานะความเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนของอาเซียนที่เหนือกว่าองค์กรอื่น (Overarching) จึงท�าให้เกิดอุปสรรคในการ
สร้างความเข้าใจร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การสร้างความร่วมมือเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นในวาระที่สอง เมื่อ AICHR ได้ริเริ่มการเชิญ
ACWC หารือร่วมกัน
๔.๒.๓ คณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการอนุวัติการตามปฏิญญาการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงาน
ข้ามชาติ (ASEAN Committee on the Implementation of the ASEAN Declaration on the Protection
and Promotion of the Rights of Migrant Workers)
ตามที่บ่งบอกโดยชื่อทางการ คณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการอนุวัติตามปฏิญญาการคุ้มครอง
และส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติ หรือ ACMW ถูกจัดตั้งตามปฏิญญาในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลไกด้านสิทธิ
มนุษยชนของอาเซียนกลไกแรก อย่างไรก็ตาม อ�านาจหน้าที่ของ ACMW มีขอบเขตที่จ�ากัดกว่าของ AICHR และ ACWC
โดยมีหน้าที่หลักในการอนุวัติการตามปฏิญญามากกว่าการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในความหมายโดยทั่วไป
ACMW ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศละ ๑ คน และรายงานต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้าน
แรงงานของอาเซียน (Senior Labour Officials Meeting of ASEAN หรือ SLOM)
หน้าที่ของ ACMW ตามที่ก�าหนดใน TOR คือ การแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดี และการส่งเสริม
ความร่วมมือเพื่อให้เกิดตราสารระดับภูมิภาคในด้านแรงงานข้ามชาติ และในทางปฏิบัติ ACMW ท�าหน้าที่เป็นหน่วย
ประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมากกว่าที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานในลักษณะเดียวกับ AICHR และ
ACWC และส�าหรับประเด็นภารกิจหลักของ ACMW ในการพัฒนาตราสารด้านแรงงานข้ามชาติของอาเซียน นับตั้งแต่จัดตั้ง
ACMW ยังไม่สามารถจัดท�าร่างตราสารได้ส�าเร็จแม้ว่าจะใช้เวลาเกือบสิบปีในการด�าเนินการแล้วก็ตาม โดยข้อท้าทายที่
ส�าคัญคือความแตกต่างของท่าทีของประเทศสมาชิกที่แบ่งออกเป็นกลุ่มที่ส่งแรงงาน (Sending states) กลุ่มที่รับแรงงาน
(Receiving states) และกลุ่มที่เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับแรงงาน (เช่นประเทศไทย) อีกทั้งหลายประเทศในอาเซียนยังมี
ข้อสงวนในการรับรองสิทธิของแรงานข้ามชาติหลายประการ แม้แต่การใช้ค�าว่า “แรงงานข้ามชาติ” หรือ “แรงงานย้ายถิ่น”
ยังเป็นที่ถกเถียง และมีความพยายามจะให้ใช้ค�าอื่นแทน เช่น ค�าว่า “แรงงานต่างชาติ” (foreign workers) เป็นต้น 40
39 ดังที่ก�าหนดไว้ในปฏิญญาสิทธิมนุษยชนสากล ปฏิญญาเวียนนา อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็ก แนวทางด�าเนินการตาม Beijing Platform for Action ในกรณีส�าหรับเด็ก และเอกสารขอบเขตอ�านาจหน้าที่
ของคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี
40 From Directorate –General for External Policies of the Union, Directorate B Policy Department : Development
of the Asian Human Rights Mechanism (pp 13-14) by Vitit Muntarabhorn,2012 European Parliament. Retrieved from
http://www.europarl.europa.eu/RegData/etudes/note/join/2012/457120/EXPO-DROI_NT(2012)457120_EN.pdf
54
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ