Page 54 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 54

พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
                                                                          Human Rights Obligations of the ASEAN Community





                                  ๒) การจัดสัมมนาและฝึกอบรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชน ในส่วนของ

            ประเทศไทยในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จะมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้ที่ท�างานด้านสิทธิมนุษยชน (Training of the Trainers)
            ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖

                                  ๓) การจัดท�างานวิจัยเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ด้านสิทธิมนุษยชน งานวิจัยแรกที่ได้จัดท�า คือ
            งานวิจัยประเด็นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม  (Corporate  Social  Responsibility:  CSR)  โดยได้ท�าการเผยแพร่ที่
            ประเทศสิงคโปร์ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ในด้านประเทศไทยร่วมกับประเทศมาเลเซียได้เสนอการจัดท�างานวิจัยในประเด็นเรื่อง

            สิทธิในชีวิต (Right to Life) และประเทศลาวมีการจัดท�างานวิจัยในเรื่องสิทธิในสันติภาพ (Right to Peace)
                                  ๔) การจัดท�าตราสารทางกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียน ที่ผ่านมาอาเซียนยังไม่มี
            เครื่องมือทางกฎหมายในลักษณะดังกล่าว หนึ่งในหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารขอบเขตอ�านาจ

            หน้าที่ คือ การสร้างกรอบความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนผ่านอนุสัญญาอาเซียนและเครื่องมืออื่น ๆ ในการจัดการด้าน
            สิทธิมนุษยชน จากข้อก�าหนดดังกล่าวคณะกรรมาธิการจึงมีแผนในการจัดท�าอนุสัญญาอาเซียนด้านสิทธิมนุษยชนซึ่ง
            จะเป็นเครื่องมือที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อประเทศสมาชิกและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนระดับ

            ภูมิภาค โดยในการพิจารณาเบื้องต้นจะมีการจัดท�าอนุสัญญาในเรื่องที่ประเทศสมาชิกทั้งหมดมีจุดร่วมเดียวกัน  คือ  เรื่อง
            เกี่ยวกับสตรีและเด็ก



                                ๒. การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                                  การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเป็นอีกภารกิจหลักของคณะกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ในเอกสาร

            ขอบเขตอ�านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการก�าหนดเนื้อหาภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไว้อย่างจ�ากัด
            โดยมีข้อก�าหนดที่ชัดเจนในข้อ ๔.๑๐ เกี่ยวกับการขอรับข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นใน

            ประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตาม การด�าเนินการตามข้อก�าหนดดังกล่าวยังเป็นไปอย่างจ�ากัด เนื่องจากความเข้าใจที่แตกต่าง
            กันของผู้แทนประเทศสมาชิก ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดในบทที่ ๕



                         ๔.๒.๒ คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ASEAN
            Commission on the Promotion of the Rights of Women and Children)
                                คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและเด็ก หรือ ACWC ได้รับการ

            จัดตั้งขึ้นเมื่อปี  พ.ศ.  ๒๕๕๓  หรือหนึ่งปีหลังจากการจัดตั้ง  AICHR  ด้วยข้อพิจารณาหลักที่ว่า  สมาชิกของอาเซียนทั้งสิบ
            ประเทศได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ  (CEDAW)  และอนุสัญญาว่าด้วย
            สิทธิเด็ก (CRC) จึงสร้างกลไกเพื่อสร้างความร่วมมือและการวางนโยบายร่วมกันในด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก

                                เอกสารขอบเขตอ�านาจหน้าที่ หรือ TOR ของ ACWC ได้รับการรับรองในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และ
            ก�าหนดให้ ACWC ประกอบด้วยสมาชิก ๒๐ คนซึ่งแต่งตั้งจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศละ ๒ คน โดยคนหนึ่งจะ

            เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี และอีกคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก ผู้แทนแต่ละคนมีวาระการด�ารงต�าแหน่ง ๓ ปีโดย
            สามารถได้รับการต่อวาระได้หนึ่งครั้ง ถึงแม้จะมีภารกิจในด้านสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกับ AICHR แต่ ACWC ถูกก�าหนด
            ให้รายงานต่อที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสวัสดิการและการพัฒนาสังคม (ASEAN Ministers Meeting on Social

            Welfare and Development) ต่างจาก AICHR ที่รายงานต่อ AMM และข้อแตกต่างที่ส�าคัญอีกประการ คือ ACWC มี





                                                                                                              53
                                                                          ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59