Page 28 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 28

พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
                                                                          Human Rights Obligations of the ASEAN Community







                         ๒.๒.๑ กฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter)

                                กฎบัตรสหประชาชาติเป็นตราสารก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ซึ่งระบุถึง
            ข้อตกลงระหว่างประเทศสมาชิกในการสร้างเสถียรภาพและรักษาสันติภาพระหว่างประเทศต่าง ๆ ภายหลังสงครามโลก

            ครั้งที่ ๒ และประกาศเจตจ�านงในการ “ยืนยันความเชื่อมั่นในสิทธิมนุษยชน อันเป็นหลักมูลในเกียรติศักดิ์ และคุณค่าของ
            บุคคลผู้เป็นมนุษย์ ในสิทธิอันเท่าเทียมกันของบุรุษและสตรี และของประชาชาติทั้งใหญ่และเล็ก” ดังข้อความที่ปรากฏใน
            หมวดที่ ๑ ของกฎบัตรว่า “ความมุ่งประสงค์ของสหประชาชาติ คือ เพื่อให้บรรลุถึงการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะ

            แก้ปัญหาระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหรือมนุษยธรรม และในการส่งเสริมและสนับสนุนการเคารพต่อ
            สิทธิมนุษยชน และต่ออิสรภาพอันเป็นหลักมูลส�าหรับทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา”
            ความส�าคัญของกฎบัตรสหประชาชาติในบริบทสิทธิมนุษยชน คือ การจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการพัฒนามาตรฐาน

            และตราสารสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะคณะมนตรีความมั่นคง (Security Council) สมัชชาใหญ่ (General Assembly)
            คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Council) และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court
            of Justice)






                                  นอกจากนั้น  องค์การสหประชาชาติยังได้จัดตั้งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน  (Human  Rights
               Council)  เพื่อเป็นองค์กรที่มีพันธกิจในด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยตรงด้วย  โดยสมัชชาใหญ่

               ได้มีมติจัดตั้งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อท�าหน้าที่แทนคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน
               (Human Rights Commission) ที่ถูกจัดตั้งในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนมีสมาชิก ๔๗ ประเทศที่

               ได้รับแต่งตั้งจากสมัชชาใหญ่ตามจ�านวนประเทศสมาชิกในแต่ละภูมิภาคและมีวาระ ๓ ปี โดยอาจได้รับแต่งตั้งเป็น
               สมาชิกได้ติดต่อกันไม่เกินสองวาระ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้สร้างกลไกการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
               หลายรูปแบบ ได้แก่

                                  ๑. การทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (Universal Periodic Review)

                                    สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติได้มีมติให้จัดท�ากระบวนการทบทวนสถานการณ์
               สิทธิมนุษยชนขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยให้มีคณะท�างานเพื่อการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (Working Group
               on the UPR) ซึ่งได้แก่ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนที่มีสมาชิก ๔๗ ประเทศ โดยก�าหนดให้ประเทศสมาชิกของ

               องค์การสหประชาชาติ (๑๙๓ ประเทศ) จัดท�ารายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของตนเสนอต่อคณะท�างานและ
               เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติอื่น ๆ ซักถามและเสนอแนะต่อประเทศที่เสนอรายงานได้

               ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวจัดท�าขึ้นทุกระยะเวลา ๔ ปี โดยเริ่มมีการพิจารณารายงานเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑
               และส�าหรับประเทศไทยได้จัดท�ารายงานดังกล่าวเสนอต่อคณะท�างานครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และครั้งที่สองใน
               ปี พ.ศ. ๒๕๕๙












                                                                                                             27
                                                                          ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33