Page 91 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 91
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
ดังนั้น เพื่อพิเคราะห์ถึงประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคอเมริกา จึงเป็นการสมควร
ที่จะศึกษาพัฒนาการของการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริบทของสิทธิมนุษยชนผ่านแนวทางการชี้ขาดข้อพิพาทที่มีความ
เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและศาลสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอเมริกา อันสามารถจ�าแนก
แนวทางการตีความชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมได้ดังต่อไปนี้
๓.๒.๒.๑ การตีความว่าการท�าให้เกิดความเสื่อมโทรมแก่สิ่งแวดล้อมเป็นการละเมิดต่อสิทธิในการมีชีวิต
(Right to Life)
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอเมริกาและศาลสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอเมริกามี
แนวทางการตีความขอบเขตของสิทธิในการมีชีวิตค่อนข้างกว้าง อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน สิทธิในการมีชีวิตยังไม่มีการก�าหนด
ขอบเขตของสิทธิที่ชัดเจน เนื่องจากในการมีค�าชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
และศาลสิทธิมนุษยชนมักจะพิจารณาข้อเท็จจริงในกรณีพิพาทนั้นแล้วตีความว่ากรณีดังกล่าวมีการกระท�าอันละเมิดต่อ
สิทธิในการมีชีวิตหรือไม่ ไม่ได้มีการวางหลักการในทางทฤษฎีหรือวางหลักเกณฑ์เพื่อก�าหนดขอบเขตของสิทธิในการมีชีวิต
ไว้เป็นการทั่วไป 83
ในกรณีค�าร้องหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ผู้ร้องไม่สามารถกล่าวอ้างเพียงแค่มีการ
ท�าให้เกิดความเสื่อมโทรมแก่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ต้องแสดงให้เห็นด้วยว่าการก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมแก่สิ่งแวดล้อม
นั้นได้มากระทบในทางลบต่อคุณภาพชีวิตหรือสุขภาพร่างกายของประชาชนอันสามารถถือได้ว่ามีการกระท�าละเมิดต่อ
สิทธิในการมีชีวิต ตัวอย่างข้อพิพาทเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ได้มีการกล่าวอ้างว่าเป็นกรณีที่มีการกระท�าละเมิดสิทธิมนุษยชน
ภายใต้ระบบการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอเมริกา ได้แก่ คดี Yanomami v. Brazil
คดี Yanomami v. Brazil, 1989 84
กรณีคดี Yanomami v. Brazil เป็นข้อพิพาทที่ผู้เสียหาย คือ ชาว Yanomami Indians ซึ่งเป็นชนพื้นเมือง
ที่อาศัยอยู่ในประเทศบราซิลได้ร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอเมริกา โดยกล่าวอ้างว่าการกระท�าของ
รัฐบาลประเทศบราซิลเป็นการละเมิดต่อสิทธิในการมีชีวิตอันเป็นสิทธิมนุษยชนประการหนึ่งที่รัฐมีหน้าที่ต้องรับรอง
และคุ้มครอง
ข้อเท็จจริงปรากฏว่ารัฐบาลประเทศบราซิลได้ด�าเนินการก่อสร้างเส้นทางหลวงสายหลักผ่านผืนดิน
ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาว Yanomami ทั้งยังอนุญาตให้มีการส�ารวจ ใช้สอย และพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าว อันเป็น
สาเหตุท�าให้ต่อมามีการค้นพบแร่ธาตุอันมีมูลค่าในบริเวณดังกล่าว การรุกล�้าเข้าใช้สอยผืนดินเช่นนี้ท�าให้มีการอพยพ
หรือย้ายถิ่นที่อยู่ของชนพื้นเมืองบางคน และการก่อสร้างเส้นทางหลวงยังน�ามาซึ่งการทะลักเข้ามาของบุคคลภายนอก
ที่ไม่ใช่ชนพื้นเมืองในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว น�าพาเอาโรคติดต่อมายังชนพื้นเมือง โดยที่รัฐบาลประเทศบราซิลไม่ได้เข้ามา
จัดการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้แต่อย่างใด
83
From “The Inter-American System of Human Rights: An Effective Means of Environmental Protection?” by
Inara K. Scott (2000) Va. Envtl. L. J. 19; 197, pp 211 - 212.
84
No. 5/1989 Yanomami v. Brazil, Inter – Am. Ct. H.R. (Ser. C) 1989.
90