Page 86 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 86

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน







              ความจ�าเป็นต่อสภาพเศรษฐกิจที่ดีของประเทศ โดยศาลพบว่ารัฐบาลอังกฤษได้มีการชั่งน�้าหนักความเป็นธรรมระหว่าง
              เศรษฐกิจและความกินดีอยู่ดีของประชาชนแล้ว ตลอดจนได้ด�าเนินการที่ดีที่สุดในเชิงเศรษฐกิจแล้วแต่ไม่อาจจะลด
              เสียงดังให้น้อยลงไปกว่านี้ตามมาตรฐานควบคุมการบิน อีกทั้งระดับเสียงดังกล่าวก็อยู่ในระดับที่สามารถรับได้ภายใต้

              หลักความได้สัดส่วน (Proportionality) กล่าวคือ ระดับเสียงดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดภาระเกินสมควรแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
              โดยพิจารณาจากการที่บุคคลหนึ่ง ๆ สามารถย้ายไปอาศัยบริเวณอื่นได้โดยไม่ได้รับความล�าบากหรือความเสียหาย
              อย่างมีนัยส�าคัญ  ดังนั้น  กรณีนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิในการเคารพชีวิตความเป็นส่วนตัวและครอบครัวของ

              ผู้ฟ้องคดี




                         ๓.๑.๓.๓ คดีเกี่ยวกับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและการเข้าถึงศาล (Right to a Fair Trial and
            to Have Access to a Court)


                           คดี Athanassoglou and Others v. Switzerland  ลงวันที่ ๖ เมษายน ค.ศ. ๒๐๐๐

                           ผู้ฟ้องคดีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ในเขต ๑ ในบริเวณใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โรงที่ ๒ ใน Beznau

              (รัฐอาร์เกา) ผู้ฟ้องคดีได้รับการปฏิเสธการเข้าถึงศาลเกี่ยวกับการตัดสินใจของสภาแห่งชาติ (Federal Council) ที่
              ก�าหนดให้ขยายใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และใบอนุญาตเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว ขั้นตอนต่าง ๆ
              ที่ตัดสินใจโดยสภาแห่งชาติโดยไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงมีส่วนร่วม ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อ

              ผู้ฟ้องคดี
                           ศาลเห็นว่า คดีนี้ไม่อาจน�ามาตรา ๖ เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าถึงศาลและกระบวนการยุติธรรมมาปรับ

              ใช้ได้ เนื่องจากความเชื่อมโยงระหว่างการตัดสินใจของสภาแห่งชาติและสิทธิตามกฎหมายภายในที่ผู้ฟ้องคดีอ้างถึง
              ค่อนข้างมีน�้าหนักน้อย ไม่เพียงพอที่จะน�ามาตรา ๖ มาปรับใช้ ยิ่งไปกว่านั้นในค�าฟ้องปรากฏว่าผู้ฟ้องคดียอมรับว่า
              การด�าเนินการดังกล่าวมิได้เป็นอันตรายมากกว่าปกติเมื่อพิจารณาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยทั่วไป และโรงไฟฟ้าใน

              หลายพื้นที่จะมีการค�านึงถึงข้อก�าหนดที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม และโดยทางเทคนิคที่เกี่ยวกับ
              การใช้พลังงานนิวเคลียร์ก็ควรจะได้รับการตัดสินใจจากนักเทคนิคหรือวิศวกรที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ความปลอดภัย

              ต่าง ๆ เป็นอย่างดีแล้ว


                           คดี L’Erablière asbl v. Belgium ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๒๐๐๙

                           ผู้ฟ้องคดีเป็นสมาคมไม่แสวงหาก�าไร  ท�าหน้าที่ในการเรียกร้องให้รัฐทบทวนเกี่ยวกับใบอนุญาตขยาย

              พื้นที่การรับขยะ แต่สภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ (Conseil d’État) ไม่อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีด�าเนินการเรียกร้องดังกล่าวได้
                           ศาลวินิจฉัยว่า การน�ามาตรา ๖ มาปรับใช้เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าถึงศาลนั้นจะต้องมีจุดเกาะเกี่ยว
              ที่เพียงพอที่จะสามารถใช้สิทธิในทางแพ่งได้เสียก่อน ตามค�าฟ้องของผู้ฟ้องคดี จะเห็นว่าสมาคมของผู้ฟ้องคดีเป็น

              สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่มเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม  และการเพิ่มพื้นที่รับขยะมีผล
              โดยตรงต่อชีวิตส่วนตัว (Private Rights) ของสมาชิกในสมาคมในเมือง Marche-Nassogne ดังนั้น สภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ

              จึงละเมิดสิทธิในการเข้าถึงศาลและกระบวนการยุติธรรม  ตามมาตรา  ๖  ของอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครอง
              สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยการจ�ากัดสิทธิดังกล่าวไม่อาจกระท�าได้



                                                           85
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91