Page 83 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 83

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





               ๓.๑.๓ ค�าพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม

                       คดีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปยกขึ้นมาวินิจฉัยมีอยู่จ�านวนมาก  แต่ข้อจ�ากัด
          ของศาล  คือ  จะต้องอาศัยอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเป็นกฎหมายหลักในการใช้พิจารณาพิพากษาคดีความ  ซึ่ง

          ไม่ปรากฏว่าสิทธิในสิ่งแวดล้อม (Right to Environment) อยู่ในสิทธิต่าง ๆ ที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญา  ดังนั้น
          คดีที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจึงต้องใช้สิทธิเท่าที่ปรากฏในอนุสัญญาฯ เป็นหลักในการพิจารณาพิพากษาคดี
          โดยมาตราที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมี ดังนี้

                       ๑) สิทธิในชีวิต (Right to Life) มาตรา ๒
                       ๒) สิทธิในการเคารพชีวิตส่วนตัวและครอบครัว  (Right  to  Respect  for  Private  and  Family  Life)

                          มาตรา ๘
                       ๓) สิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและการเข้าถึงศาล (Right to a fair trial and to have access
                          to a court) มาตรา ๖

                       ๔) สิทธิในการได้รับการเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ (Right to an Effective Remedy) มาตรา ๑๓
                       ๕) สิทธิในการมีความสุขของเจ้าของทรัพย์สินอย่างสงบ (Right to the Peaceful Enjoyment of One’s

                          Possessions) มาตรา ๑ ของพิธีสาร ฉบับที่ ๑
                       ๖) สิทธิในการได้รับและเผยแพร่ข่าวสารและความคิด (Right to Receive and Impart Information
                           and Ideas) มาตรา ๑๐



                       ๓.๑.๓.๑ คดีเกี่ยวกับสิทธิในชีวิต (Right to Life)

                       คดี Oneryildiz v. Turkey  ลงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๐๔


                        คดีนี้เกิดขึ้นใน ปี ค.ศ. ๑๙๙๓ โดยผู้ฟ้องคดีเป็นผู้อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่พิพาท และได้รับผลกระทบจาก
           การปล่อยก๊าซมีเทนเกินกว่ามาตรฐาน  จนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตจ�านวน  ๙  คน  โดยผู้ฟ้องคดีสามารถพิสูจน์ได้ว่า
           ก๊าซมีเทนมีส่วนส�าคัญในการเสียชีวิตดังกล่าวจริง ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปวินิจฉัยว่า คดีนี้ผู้ถูกฟ้องคดีได้รับ

           ความเสียหายจากการละเมิดสิทธิในชีวิต (Right to Life) ตามมาตรา ๒ ของอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครอง
           สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน  รัฐขาดกฎหมายที่เพียงพอในการป้องกันสิทธิในชีวิตของมนุษย์  รัฐบาลตุรกีจะต้อง

           มีมาตรการที่เพียงพอในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของบุคคลโดยรอบพื้นที่  และยังต้องมีมาตรการก�ากับดูแล
                                                                            74
           การอนุญาตให้เปิดและประกอบกิจการโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของมนุษย์   นอกจากนี้  ศาลยังได้พิจารณาถึง
           แง่มุมของสิทธิเชิงกระบวนการที่เกี่ยวเนื่องกับสิทธิในชีวิต โดยศาลได้กล่าวถึงสิทธิในการมีชีวิตรวมถึงสิทธิในข้อมูล

           ข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมที่เป็นอันตรายด้วย  และภายหลังเหตุการณ์ระเบิดของก๊าซมีเทน  มาตรา  ๒  ยังก�าหนดให้รัฐ
           ต้องมีมาตรการตอบสนองที่เพียงพอ (Adequate Response) ต่อเหตุการณ์เสียชีวิตของประชาชนที่อาจเกี่ยวข้องกับ
           ความรับผิดชอบของรัฐ ดังนั้น รัฐจึงมีหน้าที่ในการเข้าตรวจสอบเหตุการณ์และด�าเนินคดีแก่ผู้กระท�าความผิดเกี่ยวกับ

           การละเมิดสิทธิในชีวิตนั้นด้วย



                 74   ศาลได้กล่าวเน้นย�้าว่า สิทธิในชีวิต (Right to Life) ภายใต้อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ

          ขั้นพื้นฐานไม่ได้ก�าหนดเพียงหน้าที่เชิงลบ (negative obligation) แก่รัฐเท่านั้น แต่รัฐยังต้องมีหน้าที่เชิงบวก (Positive Obligation) ในการ
          ปกป้องคุ้มครองชีวิตของประชาชนด้วย (Oneryildiz v. Turkey, 2004: para. 71).

                                                           82
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88