Page 44 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 44

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน





                                  ๔) สนธิสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี

                                     ปัจจุบันประเทศไทยเป็นภาคีสนธิสัญญา ด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งสหประชาชาติถือเป็นสนธิ
            สัญญาหลัก จ�านวน ๗ ฉบับ คือ



                                     ก.  อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child - CRC)

                                        สาระส�าคัญของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กประกอบด้วยบทบัญญัติ ๕๔ ข้อ ได้แก่ เรื่อง
               เกี่ยวข้องกับสิทธิของเด็กโดยตรง ซึ่งเน้นหลักพื้นฐาน ๔ ประการ และแนวทางในการตีความอนุสัญญาทั้งฉบับ ได้แก่
               การห้ามเลือกปฏิบัติต่อเด็กและการให้ความส�าคัญแก่เด็กทุกคนเท่าเทียมกันโดยไม่ค�านึงถึงความแตกต่างของเด็ก ใน

               เรื่องเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง ชาติพันธุ์ หรือสังคม ทรัพย์สิน ความทุพพลภาพ
               การเกิด หรือสถานะอื่น ๆ ของเด็ก หรือบิดามารดา หรือผู้ปกครองทางกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน
               การกระท�าหรือการด�าเนินการทั้งหลายต้องค�านึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นอันดับแรก สิทธิในการมีชีวิต การอยู่รอด

               และการพัฒนาทางด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม สิทธิในการแสดงความคิดเห็นของเด็ก และการให้ความส�าคัญกับความคิด




                                       ข.  อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ

                                            (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination
                                            Against Woman - CEDAW)

                                             วัตถุประสงค์หลักของอนุสัญญาฉบับนี้คือการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ
              รวมทั้งการประกันว่าสตรีและบุรุษมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติและดูแลจากรัฐอย่างเสมอภาคกัน ได้แก่ กล่าวถึงค�า
              จ�ากัดความของค�าว่าการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (Discrimination Against Women) พันธกรณีของรัฐภาคี มาตรการ

              ที่รัฐภาคีต้องด�าเนินการเพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าของสตรี  มาตรการเร่งด่วนชั่วคราวเพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน
              ระหว่างบุรุษและสตรีอย่างแท้จริงซึ่งจะไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความแตกต่างทางเพศ  การปรับรูปแบบ
              ทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อให้เอื้อต่อการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี  และการปราบปรามการลักลอบค้า  และแสวงหา

              ประโยชน์ทางเพศจากสตรี
                                           อนุสัญญากล่าวถึงความเท่าเทียมกันระหว่างบุรุษและสตรีในด้านการเมืองและการ

              ด�ารงชีวิต (Public Life) ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เช่น สิทธิในการเลือกตั้ง การสนับสนุนให้ด�ารง
              ต�าแหน่งที่ส�าคัญ  ความเท่าเทียมกันในกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ  และการศึกษา  การที่สตรีจะได้รับการดูแลทางเศรษฐกิจ
              โดยได้รับความเท่าเทียมกันในด้านสิทธิและโอกาสที่จะได้รับการจ้างงานและสิทธิด้านแรงงาน รวมถึงการป้องกัน

              ความรุนแรงต่อสตรีในสถานที่ท�างาน  ความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยเฉพาะสตรีมีครรภ์และ
              หลังคลอดบุตร การที่รัฐภาคีจะประกันความเป็นอิสระของสตรีด้านการเงินและความมั่นคงด้านสังคมและการให้

              ความส�าคัญแก่สตรีในชนบท ทั้งในด้านแรงงานและความเป็นอยู่ ความเท่าเทียมกันของบุรุษและสตรีในด้านกฎหมาย
              โดยเฉพาะในด้านกฎหมายแพ่งและกฎหมายครอบครัว ซึ่งเป็นการประกันความเท่าเทียมกันในชีวิตส่วนบุคคล การจัดตั้ง
              คณะกรรมการการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ  พันธกรณีในการจัดท�ารายงานของรัฐภาคี  การปฏิบัติ

              หน้าที่ของคณะกรรมการ และการมีส่วนร่วมของทบวงช�านัญพิเศษที่เกี่ยวข้อง






                                                           43
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49