Page 38 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 38
ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
มีสิทธิโดยอัตโนมัติทันที จะต้องได้รับการพัฒนาสิทธิจากพระผู้เป็นเจ้าหรือจากธรรมชาติไปเรื่อย ๆ โดยชายและหญิงจะ
อยู่ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ (Specie Being) และสิทธิมนุษยชนไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติไปเสียทั้งหมดและอาจโอน
สิทธินี้ให้แก่กันได้ 10
การนิยามค�าว่า สิทธิมนุษยชนของส�านักมาร์กซิสจะให้มนุษย์ในฐานะเป็นสัตว์เผ่าพันธุ์
หนึ่งที่มีพัฒนาการขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์มาเป็นหลักเกณฑ์ในการคิดคุ้มครอง ดังนั้น การคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนของส�านักมาร์กซิสนี้จึงมุ่งคุ้มครองมนุษย์ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยอาจต้องพิจารณาตามพัฒนาการ
ของมนุษย์ไปเรื่อย ๆ มนุษย์ในวัยต่าง ๆ จะได้รับการคุ้มครองที่แตกต่างกันตามล�าดับและความส�าคัญของการเจริญเติบโต
เชิงพันธุกรรม
อย่างไรก็ดี ในเวทีระหว่างประเทศทฤษฎีมาร์กซิสไม่อาจเข้ากันได้กับนานาชาติ เนื่องจาก
ในสายตาของนานาชาติต่างไม่ยอมรับสังคมคอมมิวนิสต์ จึงท�าให้แนวคิดในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแบบเผ่าพันธุ์มนุษย์
(Species Being) ไม่อาจมีอิทธิพลในโลกประชาธิปไตยในปัจจุบันที่เป็นสังคมส่วนใหญ่ในโลก และจ�ากัดอยู่เพียงประเทศ
ที่ใช้ลัทธิคอมมิวนิสต์ในการปกครองเท่านั้น
๑.๕) ส�านักสังคมวิทยา (Sociological Approach)
แนวคิดของส�านักสังคมวิทยาเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ ๒๐ พิจารณาเป้าหมายต่าง ๆ
เพื่อสังคมมนุษย์เป็นหลัก โดยมองว่าธรรมชาติและสังคมวิทยาสามารถพัฒนาไปได้ด้วยกัน โดยที่มนุษย์มีความแตกต่างกัน
ทั้งทางวัฒนธรรม สังคม ผลประโยชน์ต่าง ๆ กฎหมายต้องแก้ไขหรือวางโครงสร้างของสังคม
นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงในส�านักนี้คือ รอสโก พาวด์ มีความเห็นว่าในช่วงศตวรรษที่ ๑๙
กฎหมายจะยอมรับในเรื่องสิทธิของปัจเจกบุคคลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ เป็นต้นมา ความสนใจของ
สังคมจะเริ่มยอมรับว่าสิ่งที่น่าจะศึกษาก็คือ มนุษย์ต้องการอะไร อุปสงค์ของมนุษย์คืออะไร ประโยชน์ของสังคมเป็น
อย่างไร โดยจะต้องจ�าแนกประโยชน์ของมนุษย์โดยส่วนตัว (Individual Interest) ออกจากประโยชน์สาธารณะ (Public
Interest) และประโยชน์ของสังคม (Social Interest) เพื่อวางโครงสร้างทางสังคมเสียก่อน เพื่อจะตอบโจทย์ได้ว่ามนุษย์
ในสังคมจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม การจ�าแนกประโยชน์ทางสังคมมนุษย์ออกมาเป็น ๓ แบบข้างต้นของ
รอสโก พาวด์ ไม่ได้ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือมีวิธีการต่อไปว่าควรให้ความส�าคัญกับสิ่งใดมากกว่ากัน ท�าให้เกิดปัญหา
ในการนิยามความหมายของสิทธิมนุษยชนของส�านักนี้และยังเป็นที่ถกเถียงว่า สิทธิมนุษยชนควรรวมถึงสิทธิของกลุ่มหรือ
ชุมชนนั้น ๆ ด้วยหรือไม่
ดังนั้น ก่อนที่จะวิเคราะห์ในปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับสิทธิในสิ่งแวดล้อม (Environmental
Rights) หรือสิทธิมนุษยชนในสิ่งแวดล้อม (Environmental Human Rights) หรือสิทธิมนุษยชนกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
(Human Rights and Environmental Protection) จ�าเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจในการนิยามค�าว่าสิทธิมนุษยชน
ของระบบกฎหมายต่าง ๆ เสียก่อนว่ามีแนวคิดอย่างไร เหตุใดจึงมีผู้มีความเห็นแตกต่างกันมากมายเกี่ยวกับนิยามของสิทธิ
มนุษยชน จึงจะสามารถเข้าใจปัญหาเมื่อจะน�าสิทธิมนุษยชนไปประยุกต์ใช้กับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้
10
From “The Philosophic Foundations of Human Rights,” by Jerome J. Shestack (1998) Human Rights Quarterly
20 (2), pp. 210.
37