Page 37 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 37
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
(Conductive) ที่ชอบด้วยศีลธรรมมากกว่าความชอบด้วยกฎหมาย เพราะสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายแต่อาจฝ่าฝืนต่อศีลธรรม
9
ก็เป็นไปได้เช่นกัน ดังนั้น สิทธิมนุษยชนจึงควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เป็นสิทธิทางศีลธรรมไม่ใช่สิทธิทางกฎหมายที่มีความ
หมายแคบกว่าสิทธิมนุษยชน จึงยากที่จะน�าสิทธิมนุษยชนมาบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรให้ครอบคลุมได้ทั้งหมด
๑.๓) ส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมือง
ส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองได้รับพัฒนาการมาในระยะหลังระหว่างศตวรรษที่ ๑๙ -
๒๐ โดยนักปรัชญาที่โดดเด่นในส�านักนี้ ได้แก่ จอห์น ออสติน และเจอเรมี เบนทัม มีแนวความคิดว่า กฎหมายคือค�าสั่ง
ของรัฐาธิปัตย์ หรือค�าสั่งของผู้มีอ�านาจปกครองสูงสุด โดยไม่สนใจว่ากฎหมายจะฝ่าฝืนต่อธรรมชาติหรือไม่ แต่หากเป็น
ค�าสั่งของรัฐาธิปัตย์แล้วย่อมต้องถือว่าค�าสั่งนั้นคือกฎหมายที่ใช้บังคับได้
มุมมองของนักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองจึงมิได้ปฏิเสธการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแต่
อย่างใด เพียงแต่สิทธิมนุษยชนที่ส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองจะรับรองหรือคุ้มครองได้ก็ต่อเมื่อรัฐาธิปัตย์เป็นผู้ออกค�าสั่ง
ให้ต้องคุ้มครองสิทธิดังกล่าวเท่านั้น สิทธิมนุษยชนในทัศนะของส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองจึงหมายถึงอ�านาจที่กฎหมาย
รับรองคุ้มครองให้เท่านั้น หากไม่มีกฎหมายบัญญัติรับรอง รัฐย่อมไม่มีหน้าที่ให้ความคุ้มครอง ยกเว้นเสียแต่ว่าสิทธิดังกล่าว
ได้รับการวินิจฉัยโดยศาลเป็นผู้สร้างกฎหมายขึ้น (Judge Made Law)
แนวคิดของส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองจึงท�าให้เกิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่เป็น
ลายลักษณ์อักษรที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนออกมามากมาย เช่น สนธิสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนขององค์การ
สหประชาชาติ รวมถึงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นมาในระยะหลัง โดยจะไม่ยอมรับ
สิทธิมนุษยชนที่ไม่ใช่ค�าสั่งของรัฐาธิปัตย์ หรือไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
ดังนั้น หากมีการน�าแนวคิดของส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองมานิยามค�าว่าสิทธิ
มนุษยชน จะท�าให้กรอบนิยามของสิทธิมนุษยชนมีความแคบเหลือเพียงสิทธิมนุษยชนที่มีลักษณะเป็นกฎหมาย (Hard Law)
แล้วเท่านั้น ไม่รวมถึงสิทธิมนุษยชนที่เป็นสิทธิที่ไม่อาจร่างกรอบให้ชัดเจนได้ ศีลธรรมที่แตกต่างจากกฎหมายบัญญัติ จึง
ไม่ใช่สิทธิมนุษยชนในมุมมองของนักกฎหมายฝ่ายบ้านเมือง หากจะน�าศีลธรรมมาคุ้มครองเป็นสิทธิมนุษยชนในทัศนะของ
ส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองจะต้องร่างออกมาเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร
อย่างไรก็ดี ประเทศที่เป็นต้นแบบของส�านักกฎหมายฝ่ายบ้านเมือง คือ สหราชอาณาจักร
อังกฤษ ซึ่งใช้ระบบกฎหมายแบบจารีตประเพณี (Common Law) อันถือว่าค�าพิพากษาของศาลเป็นกฎหมาย (Judge
Made Law) และค�าพิพากษาของศาลระบบกฎหมายจารีตประเพณีนี้เองจะเป็นสิ่งที่ผ่อนคลายความเคร่งครัดของส�านัก
กฎหมายฝ่ายบ้านเมืองที่มุ่งเน้นแต่ลายลักษณ์อักษรหรือค�าสั่งของรัฐาธิปัตย์ จนท�าให้สิทธิตามธรรมชาติ (Natural Rights)
ซึ่งไม่อาจจะระบุเป็นลายลักษณ์อักษรได้ชัดเจนใช้บังคับได้ยาก ดังนั้น หลายคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน ศาลอังกฤษ
จะพยายามสร้างหลักกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ถือว่าเกิดขึ้นมาพร้อมกับธรรมชาติอันเป็นหลักการดั้งเดิมของ
ส�านักกฎหมายธรรมชาติ
๑.๔) ส�านักมาร์กซิส
แท้จริงแล้วทฤษฎีของมาร์กซิส มีความคล้ายกับส�านักกฎหมายธรรมชาติ ที่เชื่อเรื่อง
ธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ (Nature of Human Beings) แต่มีความแตกต่างกันที่มาร์กซิสเห็นว่า ชายและหญิงมิได้
9
From What Are Human Rights (pp 19), Maurice Cranston 1973 London: The Bodley Head.
36