Page 227 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 227
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
บทสังเคราะห์
และข้อเสนอแนะ
๗.๑ บทสังเคราะห์
คณะผู้ศึกษาวิจัยได้ศึกษาเปรียบเทียบโดยส�ารวจตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและตราสารสิทธิมนุษยชน
ระดับภูมิภาคอเมริกา ยุโรป แอฟริกาที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Human Right Instruments)
และตราสารสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศและตราสารสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาคอมริกา ยุโรป แอฟริกาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ
มนุษยชนมาวิเคราะห์ โดยพิจารณาแนวทางการปรับใช้และการตีความจากคดีตัวอย่างในศาลสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค
และค�าวินิจฉัยของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งภูมิภาคอเมริกาและแอฟริกา รวมถึงการเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญของ
ประเทศในภูมิภาคทั้งสามที่มีเนื้อหารับรองสิทธิที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อน�ามาวิเคราะห์ประสบการณ์ของประเทศไทย
ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโดยอาศัยสิทธิมนุษยชน ผลของการศึกษาดังกล่าว ได้บทสังเคราะห์ ดังนี้
๗.๑.๑ ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากความแตกต่างทางความคิดเชิงวิชาการเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ
ปัญหาที่ว่า สิทธิในสิ่งแวดล้อมเป็นสิทธิมนุษยชนหรือไม่ คณะผู้วิจัยเห็นว่าปัญหาที่ส�าคัญมากกว่าการค�านึงถึงว่าสิทธิ
ในสิ่งแวดล้อมเป็นสิทธิมนุษยชนหรือไม่ คือปัญหาที่ว่าควรจะคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับใดจึงจะเหมาะสม เพราะไม่
ว่าสิทธิในสิ่งแวดล้อมจะเป็นสิทธิมนุษยชนหรือไม่ แต่ถ้ารัฐคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับที่เหมาะสมแล้วสิทธิมนุษยชน
อื่น ๆ ก็ย่อมไม่ถูกกระทบเช่นเดียวกัน จึงอาจแบ่งแยกค�าว่า สิทธิในสิ่งแวดล้อมออกเป็น ๓ ระดับ ตามความสัมพันธ์
ต่อสิทธิมนุษยชนเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจในระดับต่าง ๆ ดังนี้
๑) สิทธิในการมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ท�าลายสุขภาพ
สิทธิในการมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ท�าลายสุขภาพ เป็นสิทธิในสิ่งแวดล้อมในความหมาย
แบบแคบ ซึ่งอาจถือได้ว่าสิทธิดังกล่าวไม่ใช่สิทธิในสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเป็นการผสมผสานสิทธิมนุษยชน
ที่มีอยู่แล้ว เช่น สิทธิในชีวิต สิทธิในสุขภาพ เข้ามามีส่วนช่วยในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแบบกลมกลืนกันไป และสิทธิแบบ
นี้เป็นสิทธิเชิงปัจเจกบุคคล (Individual Rights) หมายความว่า ผู้ทรงสิทธิและผู้ถูกกระทบสิทธิเป็นปัจเจกบุคคลแต่ละคน
มิใช่เป็นสิทธิร่วมกัน (Collective Rights) แต่อย่างใด ปัจเจกบุคคลผู้ใดถูกกระทบสิทธิย่อมสามารถเรียกร้องให้รัฐคุ้มครองได้
226

