Page 225 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 225

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





                       เมื่อพิจารณาแนวทางค�าพิพากษาของศาลในประเทศไทยแล้วจะเห็นได้ว่า คดีจ�านวนมากไม่ได้มีการ

          อ้างอิงถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยตรง ต่างกับคดีที่มีลักษณะเดียวกันในต่างประเทศที่จะมีการตัดสินถึงการละเมิด
          สิทธิมนุษยชนโดยตรง ในขณะที่คดีในประเทศไทยมักจะอ้างอิงหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทั่วไปว่าด้วยละเมิดเป็นหลัก

          ในการตัดสินเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาและชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
                       อนึ่ง  การศึกษาค�าพิพากษาข้างต้น  ไม่ว่าจะในคดีของศาลรัฐธรรมนูญ  ศาลปกครอง  และศาลยุติธรรม
          ล้วนเป็นการศึกษาค�าพิพากษาในคดีที่ถึงที่สุดแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  ณ  ขณะท�ารายงานวิจัยฉบับนี้  คือ  เดือน

          เมษายน ๒๕๕๙ ทั้งนี้ ในระยะหลัง คดีจ�านวนมากไม่ว่าจะเป็นคดีปกครองหรือคดีภายใต้เขตอ�านาจของศาลยุติธรรม ได้
          เริ่มเปลี่ยนเป็นการอ้างอิงถึงสิทธิมนุษยชนที่ได้รับรองตามกฎหมายมากขึ้นและมีการอ้างอิงถึงสิทธิชุมชน นอกจากนี้
          ค�าขอในคดีต่าง ๆ ในระยะหลังจะไม่ได้เป็นแต่เพียงการฟ้องร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าเสียหายอันเป็นจ�านวน

          เงินแล้ว  แต่มีแนวโน้มที่จะมีค�าขอท้ายฟ้องเป็นการขอให้กระท�าการหรือไม่กระท�าการอย่างใดอย่างหนึ่งแทน  อย่างไรก็ดี
          ขอบเขตการวิจัยจ�ากัดอยู่เพียงการศึกษาค�าพิพากษาในคดีที่ถึงที่สุดแล้วเท่านั้น  จึงยังคงต้องเป็นประเด็นที่น่าติดตามผล
          และพิจารณาต่อไปว่า คดีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในอนาคตจะมีการน�าเอาหลักสิทธิมนุษยชนมาปรับใช้มากน้อย

          เพียงใด
























































                                                          224
   220   221   222   223   224   225   226   227   228   229   230