Page 230 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 230
ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานยังไม่ยอมรับ
สิทธิในสิ่งแวดล้อมว่าเป็นสิทธิมนุษยชน และมองว่าสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่แล้วสามารถน�ามาปรับใช้
กับกรณีทางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ หากมีการคุ้มครองและบังคับใช้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ภูมิภาคอเมริกาน�าเอาสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่แล้วมาปรับใช้กับกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
เช่นเดียวกันก่อนที่ต่อมาพิธีสารซานซัลวาดอร์ซึ่งเป็นพิธีสารเพิ่มเติมของอนุสัญญาว่าด้วย
สิทธิมนุษยชนแห่งอเมริกาจะได้บัญญัติรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมขึ้น
สิทธิมนุษยชนเชิงกระบวนการถูกน�ามาใช้เพื่อเติมเต็มสิทธิมนุษยชนเชิงเนื้อหาในการคุ้มครอง
สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปที่ไม่มีการรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อม
๗.๑.๓ การปกป้องสิ่งแวดล้อมโดยอาศัยสิทธิมนุษยชน
ในทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Soft Law และ Hard Law แม้จะมี
การบัญญัติรับรองถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หรือกล่าวถึงความส�าคัญของ
สิ่งแวดล้อมต่อสิทธิมนุษยชน แต่ยังไม่มีการรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อม (Right to Environment)
ในฐานะสิทธิมนุษยชนประเภทหนึ่งเป็นการเฉพาะ
ภูมิภาคอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และภูมิภาคแอฟริกา ได้มี
การบัญญัติรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมไว้ในตราสารสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค
เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มประเทศก�าลังพัฒนาเลือกที่จะใช้วิธีการในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโดยก�าหนด
รับรองสิทธิประเภทใหม่ขึ้นมาดังเช่นภูมิภาคอเมริกาและภูมิภาคแอฟริกา ในขณะที่ภูมิภาคยุโรปซึ่งประกอบไปด้วย
ประเทศพัฒนาแล้ว เลือกที่จะน�าเอาสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่แล้วมาปรับใช้เพื่อจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
๗.๑.๔ ลักษณะเฉพาะตัวของประเทศไทยในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
ประเทศไทยเริ่มมีพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจนที่สุดเมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๔๐ ก�าหนดให้มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติท�าหน้าที่คุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ
ในขณะเดียวกันประเทศไทยได้ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่ไม่เคยได้มี
การค�านึงถึงความเชื่อมโยงระหว่างการใช้สิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม ท�าให้เกิดการปรับใช้ที่ไม่มีทิศทางที่แน่นอน
ชัดเจน
นอกจากนี้ ความตื่นตัวของประชาชนไทยในด้านสิทธิมนุษยชนยังถือว่าเพิ่งอยู่ในระยะปรับตัว จึง
ส่งผลให้การคุ้มครองสิทธิในสิ่งแวดล้อมยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจในระดับหนึ่ง แม้สิทธิต่าง ๆ ที่มีอยู่ใน
รัฐธรรมนูญก็มิได้มีการศึกษาแยกองค์ประกอบออกมาให้ชัดเจนเพื่อระบุหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐในการมีส่วนร่วม
229

