Page 185 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 185
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
ตราสารสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่มีผล เนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
ผูกพันรัฐภาคี
๒ ปฏิญญาริโอว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและ หลักการข้อที่ ๑ มนุษย์เป็นศูนย์กลางของข้อพิจารณาเกี่ยวกับการ
การพัฒนา ค.ศ. ๑๙๙๒ พัฒนาที่ยั่งยืน โดยมนุษย์มีสิทธิในชีวิตที่ดีและสมบูรณ์ ซึ่งสอดคล้อง
กับธรรมชาติ
หลักการข้อที่ ๓ ระบุสิทธิในการพัฒนาต้องได้รับการปฏิบัติตาม
หลักการข้อที่ ๗ ก�าหนดให้รัฐทั้งหลายร่วมมือกันในการคุ้มครอง
และฟื้นฟูสุขภาพและระบบนิเวศวิทยาของโลก ภายใต้หลักความ
รับผิดชอบที่แตกต่างกันของรัฐต่าง ๆ
หลักการข้อที่ ๑๐ วางหลักเกี่ยวกับหลักการเข้าถึงข้อมูลที่เหมาะสม
เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสาธารณะ
ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย
๓ วาระที่ ๒๑ แห่งปฏิญญาริโอ ค.ศ. ๑๙๙๒ ก�าหนดหลักการพื้นฐานที่ต้องกระท�าก่อนที่จะน�าไปสู่การพัฒนาที่
ยั่งยืน โดยก�าหนดไว้ใน Chapter 23 รับรองว่าปัจเจกบุคคล กลุ่ม
และองค์กรควรจะมีส่วนร่วมในกระบวนการประเมินผลกระทบ
สิ่งแวดล้อม
๔ ปฏิญญายูเนสโกว่าด้วยความรับผิดชอบ มาตรา ๑ ก�าหนดว่าชนยุคปัจจุบันมีพันธกรณีที่ต้องรับผิดชอบต่อ
ของชนยุคปัจจุบันต่ออนาคตชน ชนยุคปัจจุบันและอนาคตชนในการคุ้มครองผลประโยชน์เท่าที่
จ�าเป็น
๕ เอกสาร “The Future We Want” ใน มาตรา ๑ ก�าหนดให้ท�าให้แน่ใจว่าการส่งเสริมความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ
การประชุมสหประชาชาติริโอ+๒๐ สังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคตเป็นการกระท�าเพื่อชนยุคปัจจุบัน
ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๑๒ และอนาคต
มาตรา ๒ ก�าหนดให้มีการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนรวมถึงสิทธิในการ
พัฒนาตามที่ก�าหนดในหลักการข้อที่ ๓ แห่งปฏิญญาริโอ ค.ศ. ๑๙๙๒
ตราสารสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่ไม่มีผลผูกพันรัฐ หรือ Soft Law นั้นถือได้ว่า
มีการเชื่อมโยงของค�าว่า “สิทธิในสิ่งแวดล้อม” ค่อนข้างชัดเจน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปฏิญญาแห่งที่ประชุมสหประชาชาติว่า
ด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ ค.ศ. ๑๙๗๒ (ปฏิญญาสตอกโฮล์ม) ซึ่งระบุว่า “มนุษย์มีสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีชีวิตที่มีเสรีภาพ
มีความเสมอภาค และมีเงื่อนไขที่เพียงพอในสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพที่ท�าให้ชีวิตมีศักดิ์ศรีและมีความเป็นอยู่ที่ดี และ
มนุษย์จะต้องรับผิดชอบในการปกป้องและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นอนาคต” แต่มิได้กล่าวว่า
สิทธิในสิ่งแวดล้อมว่าจะเป็นสิทธิมนุษยชนหรือสิทธิอื่นที่สมควรต้องได้รับความคุ้มครองในระดับใด นอกจากนี้ สิทธิที่
ปฏิญญาสตอกโฮล์มได้รับรองสิทธิดังกล่าวนี้ในฐานะที่เป็นสิทธิของปัจเจกบุคคลมากกว่าสิทธิเชิงกลุ่ม ซึ่งสามารถสังเกต
ได้จากถ้อยค�าที่ใช้ว่า “Man” ในลักษณะที่เป็นนามเอกพจน์ทางภาษาอังกฤษ จึงหมายถึงปัจเจกบุคคลคนหนึ่ง
184

