Page 157 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 157
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
เพื่อไม่ต้องรับผิด ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี ตามมาตรา ๙๖
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังนี้
กรณีค่าทดแทนการเสื่อมสมรรถภาพ สุขภาพและอนามัย และความสูญเสียทางด้านจิตใจ ในช่วงเดือน
พฤศจิกายน ๒๕๓๕ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๔๑ เป็นเวลา ๗๐ เดือน มี ๖๗ เดือน โรงไฟฟ้าแม่เมาะของผู้ถูกฟ้องคดี
ได้ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์มีค่าเฉลี่ยฯ เกินกว่า ๗๘๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเกินกว่า ๑,๓๐๐ ไมโครกรัม
ต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย สุขภาพ และอนามัย จ�านวนไม่น้อยกว่า ๒๗๘ ครั้ง
เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีที่มีภูมิล�าเนาอยู่ในพื้นที่อ�าเภอแม่เมาะ ได้รับผลกระทบเจ็บป่วยเป็นโรคพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์
เวียนศีรษะ แน่นหน้าอก แสบคอ เยื่อบุคอแดง เยื่อบุตาแดง และเยื่อบุจมูกแดง กระทบต่อสุขภาพ อนามัย เสื่อม
สมรรถภาพ และสภาพจิตใจ ดังนั้น การก�าหนดค่าเสียหายจึงพิจารณาก�าหนดรวมเป็นค่าเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่
ตัวเงินตามพฤติการณ์และความร้ายแรงจากการกระท�าของผู้ถูกฟ้องคดี ตามจ�านวนครั้งที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะของ
ผู้ถูกฟ้องคดีได้ปล่อยทิ้งก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จนท�าให้มีค่าเฉลี่ยฯ เกินกว่า ๗๘๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตาม
มาตรฐานที่ควรเป็น และเกินกว่า ๑,๓๐๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ประกาศก�าหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อมีประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ก�าหนดห้ามมิให้มีการปล่อยก๊าซ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยฯ เกินกว่า ๑,๓๐๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรใช้บังคับแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ได้บ�าบัด
หรือควบคุมถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีความร้ายแรงและเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอันเป็นการกระท�าละเมิด ตามมาตรา ๔๒๐
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งศาลมีอ�านาจก�าหนดค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความ
ร้ายแรง ตามมาตรา ๔๓๘ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายเดียวกัน ประกอบกับไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้รับโทษ
ใด ๆ จากการกระท�าดังกล่าว เพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีระมัดระวังมิให้มีการแพร่กระจายของมลพิษ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับ
อันตรายหรือเสียหายจากการด�าเนินกิจการ และเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีกระท�าผิดเช่นเดิมอีก จึงก�าหนด
ค่าเสียหายในกรณีนี้ให้แก่ผู้ฟ้องคดีแต่ละรายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ฟ้องคดีรายใดจะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อ
ความเสียหายจากการเสื่อมสมรรถภาพ สุขภาพและอนามัย และความสูญเสียทางด้านจิตใจเป็นจ�านวนเงินเท่าใดนั้น
ต้องพิจารณาจากระยะเวลาที่ผู้ฟ้องคดีรายนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่อ�าเภอแม่เมาะจริงเป็นส�าคัญ โดยผู้ฟ้องคดีรายที่อยู่ใน
พื้นที่ตลอดระยะเวลาช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๕ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๔๑ ให้มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนกรณีนี้
เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๔๖,๙๐๐ บาท ส่วนผู้ฟ้องคดีรายอื่นให้มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนกรณีนี้ตามระยะเวลาที่อยู่ใน
พื้นที่จริง ทั้งนี้ ต้องไม่เกินค�าขอของผู้ฟ้องคดีแต่ละราย
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาแก้ค�าพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้ผู้ถูกฟ้องชดใช้คดีค่าสินไหม
ทดแทนพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดีบางรายที่ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่ายื่นฟ้องคดีเมื่อพ้นก�าหนดเวลาการฟ้อง
คดีตามจ�านวนที่ตนมีสิทธิได้รับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามค�าพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
156

