Page 161 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 161
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาให้จ�าเลยช�าระเงินให้โจทก์ทั้งเจ็ดรวม ๑,๑๔๙,๖๖๗.๕๐ บาท พร้อม
ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะช�าระเสร็จแก่โจทก์ทั้งเจ็ด จ�าเลยอุทธรณ์ พยานโจทก์ปากนายยรรยง เป็น
นักวิชาการและผู้ตรวจสอบคุณภาพน�้าในล�าห้วยโจดและล�าน�้าพอง ไม่มีส่วนได้เสียกับฝ่ายใด รับฟังเป็นพยาน
คนกลางได้ ซึ่งพยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า สภาพน�้าเสียในล�าห้วยโจดและล�าน�้าพองเกิดจากแหล่งอุตสาหกรรม
ที่มีการรั่วไหลของน�้าเสียจากโรงงานออกมา นอกจากนั้น อุทธรณ์ของจ�าเลยก็ยอมรับว่าแม้จ�าเลยจะไม่ปล่อย
น�้าทิ้งลงสู่ล�าห้วยโจดตามข้อตกลงกับทางราชการ แต่อาจจะมีการรั่วไหลเป็นบางครั้ง และจากการที่กรมโรงงาน
อุตสาหกรรมมีค�าสั่งปิดโรงงานของจ�าเลย และให้จ�าเลยท�าการปรับปรุงแก้ไขปัญหาสามประการ แสดงว่า
การกระท�าของจ�าเลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�าให้น�้าใน
ล�าห้วยโจดและล�าน�้าพองเน่าเสียจนเป็นเหตุให้ปลา
ที่โจทก์ทั้งเจ็ดเลี้ยงไว้ในกระชังตาย โจทก์ทั้งเจ็ด
เลี้ยงปลาในกระชังในล�าน�้าพองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรมประมงตามพระราชบัญญัติการประมง
พ.ศ. ๒๔๙๐ นั้น ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยแล้วว่าโจทก์
ทั้งเจ็ดมีส่วนประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดความเสียหาย
ด้วย อีกทั้งก�าหนดให้จ�าเลยจ่ายค่าสินไหมทดแทน
แก่โจทก์แต่ละคนเพียงบางส่วนตามความร้ายแรง
แห่งการละเมิด ซึ่งค่าสินไหมทดแทนที่ศาลชั้นต้น
ก�าหนดให้จ�าเลยมานั้นนับว่าเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุ
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ศาล
อุทธรณ์พิพากษายืน
คดีหมายเลขแดงที่ ๕๘๑๘/๒๕๔๙ ศาลฎีกา: สิทธิชุมชนในการฟ้องคดีสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณอ่าวมาหยา
คดีนี้ องค์การบริหารส่วนต�าบลอ่าวนาง กับพวกรวม ๑๙ คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ กับพวกรวม ๕ คนเป็นจ�าเลย โดยโจทก์ที่ ๑ และที่ ๒ เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอ�านาจ
หน้าที่ในการคุ้มครองดูแลจัดการและบ�ารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและดูแลทรัพย์สิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์ที่ ๓ ถึงที่ ๑๙ อ้างว่าตนเป็นบุคคลในชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมของจังหวัดกระบี่และ
อาศัยอยู่บริเวณรอบอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัด
กระบี่ เป็นผู้มีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการบ�ารุงรักษาและการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลาย
ทางชีวภาพในเขตอุทยานแห่งชาติดังกล่าว รวมทั้งมีสิทธิที่จะฟ้องร้องหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐเพื่อให้
ปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองดูแลและบ�ารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อม
160

