Page 153 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 153
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
โดยไม่วินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระท�าละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองหรือไม่ แต่ได้วินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายแก่
ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสอง ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย อีกทั้ง การที่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองไม่สามารถน�าน�้าในล�าห้วย
คลิตี้ไปใช้ในการอุปโภคและบริโภคได้ เป็นผลโดยตรงมาจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายก�าหนด
ให้ต้องปฏิบัติและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองไม่มีแหล่งอาหารโปรตีนอื่น และ
ค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารทดแทนอาหารที่เคยมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติเป็นเงิน ๗๐๐ บาทต่อเดือนนั้น เมื่อ
แยกค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารเป็นรายวันแล้วเป็นเงินประมาณ ๒๕ บาท หรือมื้อละ ๘ บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่
เพิ่มขึ้นจริง และเหมาะสมแล้ว เห็นควรก�าหนดค่าเสียหายในส่วนนี้ให้ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองเดือนละ ๗๐๐ บาทต่อเดือน
ต่อราย เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า ได้เกิดสารตะกั่วปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐานก่อนเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๕
ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองจึงได้รับความเสียหายตั้งแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่ยื่นค�าฟ้องเพิ่มเติมเป็นเวลา ๒๑ เดือน ๒๗ วัน
จึงมีสิทธิได้รับความเสียหายในส่วนนี้เป็นเงินจ�านวน ๑๕,๓๓๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เป็น
เงินรายละ ๒,๐๖๙.๕๕ บาท รวมเป็นค่าเสียหายแต่ละรายเป็นเงิน ๑๗,๓๙๙.๕๕ บาท ส่วนค่าเสียหายในอนาคตที่
ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารเดือนละ ๗๐๐ บาท และค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการถูกละเมิดสิทธิใน
การได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองเป็นเงินจ�านวน
๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน รวมเป็นเงินจ�านวน ๑,๗๐๐ บาท นั้น เมื่อผลการตรวจวัดปริมาณสารตะกั่วในสัตว์น�้าจนกระทั่ง
วันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกของศาลปกครองสูงสุดยังคงเกินค่ามาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อนตามประกาศกระทรวง
สาธารณสุข ฉบับที่ ๙๘ (พ.ศ.๒๕๒๙) ลงวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๒๙ ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองจึงยังคงได้รับความเสียหาย
นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ยื่นค�าฟ้องเพิ่มเติม คือวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๗ จนกระทั่งวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อ
วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองในส่วนนี้
จึงเห็นควรก�าหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร
รายละ ๗๐๐ บาท ต่อเดือน นับจากวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๗ ไปจนถึงวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เป็นเวลาอีก ๙๔
เดือน รวมเป็นจ�านวนเงินรายละ ๖๕,๘๐๐ บาท
ส่วนกรณีการชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองถูกละเมิดสิทธิในการ
ได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพนั้น เห็นว่าการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองให้ชดใช้
ค่าเสียหายดังกล่าวรายละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน เป็นค�าขอที่ไม่เกินความเป็นจริงและเหมาะสมแล้ว จึงเห็นควรก�าหนด
ให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายกรณีดังกล่าว รายละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน นับจากวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๗ ไปจนถึง
วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เป็นเวลาอีก ๙๔ เดือน รวมเป็นจ�านวนเงินรายละ ๙๔,๐๐๐ บาท ผู้ถูกฟ้องคดีจึงต้องชดใช้
ค่าเสียหายในอนาคตที่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและค่าเสียหายอันเนื่องมาจาก
การถูกละเมิดสิทธิในการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบ
สอง เป็นเงินรายละ ๑๕๙,๘๐๐ บาท เมื่อปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีด�าเนินการฟื้นฟูโดยปล่อยให้ล�าห้วยคลิตี้ฟื้นฟูตัวเอง
ตามธรรมชาติและไม่มีการรบกวนจากกิจการอื่น ๆ ซึ่งไม่อาจก�าหนดเวลาแล้วเสร็จแน่นอนได้ ดังนั้น การที่ผู้ฟ้องคดี
ทั้งยี่สิบสองอุทธรณ์ขอให้มีแผนการด�าเนินการภายใต้ก�าหนดเวลาที่ชัดเจนนั้น เห็นว่า การฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ
นั้น โดยสภาพไม่อาจก�าหนดเวลาที่ชัดเจนได้ จึงไม่อาจก�าหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีด�าเนินการภายใต้เงื่อนเวลาใด ๆ ได้
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า สารตะกั่วในสัตว์น�้ายังคงมีอยู่เกินค่ามาตรฐาน ผู้ถูกฟ้องคดียังคงต้องด�าเนินการฟื้นฟูต่อไป
โดยให้ด�าเนินการฟื้นฟูทุกฤดูกาลและต้องเปิดเผยผลการด�าเนินการให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทราบ
152

