Page 148 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 148

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน





                   ๕.๒.๒ ค�าพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม



                             ค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓/๒๕๕๒: พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม

              แห่งชาติขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสภาพบังคับของสิทธิ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราช
              อาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐



                           คดีนี้เป็นการส่งประเด็นมาจากศาลปกครองสูงสุด โดยเป็นประเด็นการโต้แย้งว่าพระราชบัญญัติ

              ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔๖ วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติให้รัฐมนตรีโดยความ
              เห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอ�านาจประกาศก�าหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการ
              ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งต้องจัดท�ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ

              สิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอขอความเห็นชอบนั้น มีเนื้อหาที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
              ๒๕๔๐ มาตรา ๕๖ วรรคสอง ซึ่งมีหลักการเดียวกันกับมาตรา ๖๗ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

              พุทธศักราช ๒๕๕๐ หรือไม่
                           ในการนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีความเห็นว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
              แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔๖ วรรคหนึ่ง เป็นมาตรการทางกฎหมายส�าหรับใช้บังคับกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ

              หรือเอกชนที่มีการด�าเนินโครงการหรือกิจการที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งสอดคล้องกับการรับรองสิทธิชุมชนในการ
              ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา ๖๗ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช

              ๒๕๕๐ จึงไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
                           นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้อธิบายความต่อไปอีกด้วยว่า สิทธิและเสรีภาพที่ได้รับรองไว้ตาม
              มาตรา ๖๗ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เป็นสิทธิและเสรีภาพที่มีสภาพ

              บังคับทันทีที่รัฐธรรมนูญประกาศให้มีผลบังคับใช้ โดยไม่ต้องรอให้มีการออกกฎหมายอนุวัติการมาใช้บังคับก่อนแต่
              อย่างใด ดังนั้น หากการด�าเนินโครงการหรือกิจการใดอาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนในด้านคุณภาพ
              สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของบุคคลหรือชุมชน บุคคลหรือชุมชนย่อมมีสิทธิฟ้องต่อศาลปกครอง

              ได้โดยอาศัยอ�านาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖๗ วรรคสาม



                           ค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓๓/๒๕๕๔: พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่


                            คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตาม
               รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ วรรคหนึ่ง (๒) ว่าพระราชบัญญัติอุทยาน
               แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๖ กระทบต่อสิทธิมนุษยชน และมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา

               ๖๖ และมาตรา ๖๗ หรือไม่
                            ความเป็นมาและข้อเท็จจริงโดยสรุป คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียน
               จากก�านันต�าบลศิลาแลง และคณะกรรมการป่าชุมชนต�าบลศิลาแลง กรณีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติดอย

               ภูคาทับซ้อนพื้นที่ป่าชุมชนต�าบลศิลาแลง อ�าเภอปัว จังหวัดน่าน และนายกองค์การบริหารส่วนต�าบลท่าอุแท สมาชิก
               สภาองค์การบริหารส่วนต�าบลท่าอุแท และผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน�้าคลองคราม กรณีการประกาศ




                                                          147
   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153