Page 114 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 114

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน





                   ๕.๑.๑ การน�าประเด็นสิ่งแวดล้อมมาบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยุคก่อน

              ปี พ.ศ. ๒๕๔๐
                   บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในช่วงก่อนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

              พุทธศักราช ๒๕๔๐ นั้น ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญที่บัญญัติโดยประสงค์จะใช้อย่างถาวร (ไม่รวมถึงธรรมนูญหรือ
              รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ประกาศใช้หลังรัฐประหาร) โดยพบว่ามีการบัญญัติเรื่องสิ่งแวดล้อมไว้ในรัฐธรรมนูญ ๔ ฉบับ
              คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๒๑

              รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๘
              ซึ่งเมื่อน�ามาพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น อาจแยกพิจารณาได้เป็นสองกลุ่ม
                                     ๑                                          ๒





                                   รัฐธรรมนูญ                                 รัฐธรรมนูญ
                              แห่งราชอาณาจักรไทย                         แห่งราชอาณาจักรไทย
                             พุทธศักราช ๒๕๑๗ และ                        พุทธศักราช ๒๕๓๔ และ

                         รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย               รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
                               พุทธศักราช ๒๕๒๑                            พุทธศักราช ๒๕๓๘






                   กลุ่มแรก   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
              พุทธศักราช ๒๕๒๑ ได้น�าเอาประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมมาบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญในลักษณะที่เป็นหน้าที่ของรัฐในการ
              ปกป้องสิ่งแวดล้อมแต่เพียงประการเดียว โดยบัญญัติไว้ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

              พุทธศักราช ๒๕๑๗ ได้วางหลักไว้ในมาตรา ๗๗ ว่า “ให้รัฐพึงบ�ารุงรักษาสภาพแวดล้อมและความงามทางธรรมชาติ
              รวมทั้งป่าไม้ ต้นน�้า ล�าธาร” และในมาตรา ๙๓ ได้วางหลักไว้ว่า “ให้รัฐพึงรักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาด” ส่วนรัฐธรรมนูญ
              แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๒๑ ได้วางหลักไว้ในมาตรา ๖๕ ว่า “ให้รัฐพึงมีหน้าที่ในการรักษาสมดุลของ

              สภาพแวดล้อม” ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับได้บัญญัติเรื่องการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมไว้ในหมวดว่าด้วยแนว
              นโยบายแห่งรัฐ ท�าให้ไม่เกิดพันธะผูกพันที่รัฐจะต้องปฏิบัติตามแต่ประการใด



                   กลุ่มที่สอง  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
              พุทธศักราช ๒๕๓๘ ได้น�าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก�าหนดไว้เพิ่มจากเดิมที่มีเพียงเรื่องหน้าที่ของรัฐ โดยอาจจ�าแนก

              ลักษณะการบัญญัติไว้เป็น ๓ ลักษณะในรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ ดังนี้



                               • รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔
                               ๑) หน้าที่ของประชาชนในการปกป้องสิ่งแวดล้อม – บัญญัติไว้ในมาตรา ๕๘ ในหมวดหน้าที่ของ
              ชนชาวไทย โดยก�าหนดให้บุคคลมีหน้าที่รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามที่กฎหมายบัญญัติ

                               ๒) หน้าที่ของรัฐในการปกป้องสิ่งแวดล้อม – บัญญัติไว้ในมาตรา ๗๔ ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ
              โดยก�าหนดให้รัฐพึงบ�ารุงรักษาสิ่งแวดล้อม ความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งทดแทน และพึงป้องกันและ
              ขจัดมลพิษและวางแผนการใช้ดินและน�้าให้เหมาะสม
                                                           113
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119