Page 81 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 81

๓.๒.๓ สถานการณ์ปี ๒๕๕๙
                 ในปี ๒๕๕๙ (๑ มกราคม ๒๕๕๙ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙) กสม. ได้รับค�าร้องขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน

        จ�านวนทั้งสิ้น ๗๙๒ ค�าร้อง ซึ่งเมื่อจ�าแนกค�าร้องตามประเภทของสิทธิที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่า มีค�าร้องที่ผู้ร้องอ้างว่าถูกละเมิด
                                                                                         ๗๐
        สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม ๒๐๕ ค�าร้อง คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๘๘ ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด  เมื่อเทียบกับปี ๒๕๕๘
                                                             ๗๑
        ซึ่งมีจ�านวน ๑๕๐ ค�าร้อง จาก ๕๘๐ ค�าร้อง คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๗๗  จะเห็นได้ว่า จ�านวนเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิในกระบวนการ
        ยุติธรรมในปี ๒๕๕๙ มีจ�านวนมากขึ้นกว่าในปี ๒๕๕๘ แต่หากเทียบเป็นร้อยละของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดมีความใกล้เคียงกันมาก
        โดยสิทธิในกระบวนการยุติธรรมที่มีการร้องเรียนโดยกล่าวอ้างว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

        ในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ สิทธิของผู้เสียหาย สิทธิของผู้ต้องหา สิทธิของผู้ต้องขัง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม


                 รัฐได้มีการตรากฎหมายและปรับแก้กฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมลดปัญหาความเหลื่อมล�้า

        ในกระบวนการยุติธรรม และคุ้มครองสิทธิของประชาชน อาทิ การปรับแก้พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน
        และค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔  โดยก�าหนดให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปล่อยตัวจ�าเลย
                                               ๗๒
        มีหน้าที่แจ้งสิทธิแก่ผู้เสียหายหรือจ�าเลย และก�าหนดอ�านาจให้คณะอนุกรรมการสามารถพิจารณาค�าขออนุมัติค่าตอบแทน
        ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ การออกระเบียบคณะกรรมการกองทุนยุติธรรม โดยอาศัยอ�านาจตาม
        พระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งก�าหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเรื่องการขอปล่อยชั่วคราว

        การเยียวยากรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน การปรับแก้ประมวลกฎหมายอาญา  เรื่องการบังคับโทษปรับและการรอการลงโทษปรับ
                                                                   ๗๓
        ให้สามารถรอการลงโทษปรับได้ รวมทั้งก�าหนดให้ศาลอาจพิพากษาให้รอการก�าหนดโทษหรือรอการลงโทษแก่ผู้กระท�าความผิด
        ที่เคยรับโทษจ�าคุกมาก่อนแต่พ้นโทษจ�าคุกมาแล้วเกินกว่า ๕ ปี แล้วมากระท�าความผิดอีก โดยความผิดครั้งหลังเป็นความผิด

        ที่ได้กระท�าประมาทหรือลหุโทษ อีกทั้งศาลสามารถสั่งรอการลงโทษปรับได้อีกด้วย นอกจากนี้ ได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ
        ราชทัณฑ์ พุทธศักราช ๒๔๗๙ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล


                 ส�าหรับกรณีการด�าเนินกระบวนการยุติธรรม ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอ�านาจ
        พิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ฉบับที่ ๓๘/๒๕๕๗ เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระท�าหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอ�านาจ

        ศาลทหาร และฉบับที่ ๕๐/๒๕๕๗ เรื่อง ให้ศาลทหารมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด
        ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งส่งผลให้พลเรือนต้องอยู่ในอ�านาจการพิจารณาของศาลทหาร ต่อมา วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙
        ได้มีค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๕๕/๒๕๕๙ เรื่อง การด�าเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอ�านาจศาลทหาร โดยอาศัยอ�านาจ

        ตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ได้ก�าหนดให้บรรดาการกระท�า
        ความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ ๓๘/๒๕๕๗ และ ๕๐/๒๕๕๗ ซึ่งได้กระท�าตั้งแต่วันที่ค�าสั่งนี้ใช้บังคับ
        ให้อยู่ในอ�านาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมส่งผลให้พลเรือนที่กระท�าความผิดดังกล่าว นับแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙
        อยู่ในอ�านาจการพิจารณาของศาลยุติธรรม



                 สถานการณ์การควบคุมตัวบุคคล พบว่า เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” แกนน�า
        กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ได้ถูกบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร จ�านวน ๘ นาย พร้อมรถกระบะ ๒ คัน ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียนและ
                                                                                                           ๗๔
        สังกัดเข้าคุมตัวนายสิรวิชญ์ฯ จากด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (ฝั่งประตูเชียงราก) ไปเมื่อเวลา ๒๒.๓๐ น.
        เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๓.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร.๒ พัน ๒ รอ. ได้ควบคุมนายสิรวิชญ์ฯ ไปส่งเจ้าหน้าที่
        ต�ารวจสถานีต�ารวจนิมิตรใหม่ ตามภูมิล�าเนาของผู้ต้องหา ซึ่ง พ.ต.ท.สุจินต์ สมศรี รอง ผกก.ป. สถานีต�ารวจนิมิตรใหม่ กล่าวว่า


                 ๗๐  จาก ระบบสารสนเทศเพื่อการรวบรวมและบริการสารสนเทศด้านสิทธิมนุษยชน: ฐานข้อมูลเรื่องร้องเรียน, งานเดิม.
                 ๗๑  แหล่งเดิม.
                 ๗๒  พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙
                 ๗๓  พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๙
                 ๗๔  จาก คสช.ยัน ไม่ทราบเรื่อง ‘จ่านิว’ถูกจับ ยัน หากเป็นทหารจริงจะท�าตามขั้นตอน, โดย มติชนออนไลน์, ๒๕๕๙, สืบค้นจากhttp://www.matichon.co.th/news/7994


                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  80  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86