Page 244 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 244
๒.๓ อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention
for the Protection of All Persons from Enforced Disappearances : CED)
อนุสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยการกระท�าของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยก�าหนด
ให้บุคคลจะถูกกระท�าให้หายสาบสูญโดยถูกบังคับไม่ได้และไม่มีพฤติการณ์พิเศษใดไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงคราม หรือสภาพ
คุกคามที่จะเกิดสงคราม หรือเหตุอื่นใดมาเป็นข้ออ้างส�าหรับการกระท�าให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับได้ ซึ่งรัฐภาคีต้อง
ด�าเนินมาตรการที่จ�าเป็นเพื่อประกันว่าการหายสาบสูญโดยถูกบังคับเป็นฐานความผิดภายใต้กฎหมายอาญาของตน และต้อง
ด�าเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อสอบสวนและน�าตัวผู้กระท�าผิดมาด�าเนินคดี และต้องก�าหนดบทลงโทษและอายุความที่เหมาะ
สมและร้ายแรงของความผิด โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อบทที่ ๑ -๒๕ แม้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในระหว่างกระบวนการให้ ภาคผนวก
สัตยาบันเพื่อเข้าเป็นภาคี ซึ่งอนุสัญญาฯ จะยังไม่มีผลใช้บังคับกับประเทศไทย แต่รัฐบาลก็จะต้องไม่กระท�าการใด ๆ ที่เป็นการ
ขัดต่อสาระและความมุ่งประสงค์ (Objects and Purposes) ของอนุสัญญาดังกล่าว
๒.๔ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant
on Economic, Social and Cultural Rights : ICESCR)
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ โดยท�าค�าแถลง
ตีความข้อ ๑ วรรคหนึ่งเกี่ยวกับสิทธิในการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง โดยมิให้ตีความรวมถึง การแบ่งแยกดินแดนหรือ
เอกภาพทางการเมือง
เนื้อหาของกติกาฉบับนี้มี ๕ ส่วน ๓๑ ข้อ ๓ ส่วนแรก (ข้อ ๑-๑๕) เป็นสารบัญญัติว่าด้วยสิทธิต่าง ๆ ส่วนที่ ๔ (ข้อ
๑๖-๒๕) ว่าด้วยการเสนอรายงานทั้งของรัฐภาคีและในระหว่างองค์กรของสหประชาชาติ ของการให้ความช่วยเหลือ และ
การประชุมทางวิชาการและการตีความ และส่วนที่ ๕ (ข้อ ๒๖-๓๑) ว่าด้วยการลงนามเข้าเป็นรัฐภาคี การมีผลบังคับใช้ความ
ครอบคลุมของกติกาการแก้ไขและการเก็บรักษาต้นฉบับ ส่วนที่เป็นสารบัญญัติ ๑๕ ข้อก�าหนดสิทธิต่าง ๆ ของประชาชนได้แก่
การก�าหนดเจตจ�านงของตน การจัดการทรัพยากร และการประกันสิทธิของรัฐภาคี ที่จะต้องให้สิทธิแก่ทั้งประชาชนและผู้ที่ไม่ใช่
คนชาติของตน การประกันสิทธิความเท่าเทียมกันในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมระหว่างชายหญิงและเพื่อความเท่า
เทียมกันในสังคมประชาธิปไตย การห้ามลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การรับรองสิทธิในการท�างานหาเลี้ยงชีพด้วยสภาพ
การท�างานที่ยุติธรรม ค่าจ้างที่เป็นตามความเป็นอยู่ และสภาพการท�างานที่ปลอดภัยถูกสุขลักษณะ การก่อตั้งสหภาพแรงงาน
สิทธิของคนงาน สิทธิในสวัสดิการสังคม การประกันสังคม สิทธิของครอบครัวในฐานะจ�าเป็นสังคมพื้นฐานทางธรรมชาติ
สิทธิของมารดาเด็กผู้เยาว์และความคุ้มครอง สิทธิในมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอในปัจจัย ๔ โดยเฉพาะเรื่องอาหารโดย
ปลอดจากความหิวโหยและการแบ่งสรรอาหาร สิทธิด้านสุขภาพ สุขลักษณะ บริการทางการแพทย์ การควบคุมโรคระบาดโดย
เฉพาะอนามัยทารก สิทธิทางการศึกษาซึ่งประถมศึกษาจะเป็นการศึกษาภาคบังคับที่ให้เปล่าแก่ทุกคน และการศึกษาในระดับ
มัธยมศึกษาและอุดมศึกษาที่เหมาะสมเท่าเทียมกัน รวมถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จะต้องส่งเสริมให้มากที่สุด สิทธิที่จะมีส่วน
ร่วมของประชาชนในด้านวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และการดูแลจากภาครัฐที่จะคุ้มครองอนุรักษ์และการพัฒนารวมทั้งการเผย
แพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และทางวัฒนธรรม
๒.๕ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the
Elimination of All Forms of Discrimination against Women : CEDAW)
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ และมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่ วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๒๘ โดยท�าค�าแถลง
ตีความ ๑ ข้อ เกี่ยวกับเรื่องการบังคับใช้ภายในประเทศต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย และปัจจุบันคง
เหลือข้อสงวน ๑ ข้อ คือ ข้อ ๒๙ การให้อ�านาจศาลโลกในการตัดสินกรณีพิพาท
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 243 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙