Page 240 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 240

มาตรการที่รัฐก�าหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคล
            อื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม



                     มาตรา ๓๑ บุคคลผู้เป็นทหาร ต�ารวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และพนักงาน หรือลูกจ้างขององค์กรของรัฐ
            ย่อมมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จ�ากัดไว้ในกฎหมายหรือกฎที่ออกโดยอาศัยอ�านาจ
            ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเมืองสมรรถภาพวินัยหรือจริยธรรม



                     มาตรา ๓๒ บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย                                            ภาคผนวก
                     การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม จะกระท�ามิได้แต่การลงโทษตามค�า
            พิพากษาของศาลหรือตามที่กฎหมายบัญญัติไม่ถือว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรมตามความในวรรคนี้

                     การจับกุมและการคุมขังบุคคล จะกระท�ามิได้ เว้นแต่มีค�าสั่งหรือหมายของศาลหรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
                     การค้นตัวบุคคลหรือการกระท�าใดอันกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระท�ามิได้เว้นแต่มีเหตุตามที่
            กฎหมายบัญญัติ
                     ในกรณีที่มีการกระท�าซึ่งกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง จะกระท�ามิได้เว้นแต่มีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ
                     ในกรณีที่มีการกระท�าซึ่งกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง ผู้เสียหาย พนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นใดเพื่อ

            ประโยชน์ของผู้เสียหาย มีสิทธิร้องต่อศาลเพื่อให้สั่งระงับหรือเพิกถอนการกระท�าเช่นว่านั้น รวมทั้งจะก�าหนดวิธีการตามสมควร
            หรือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยก็ได้



                     มาตรา ๓๓  บุคคลย่อมมีเสรีภาพในเคหสถาน
                     บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองในการที่จะอยู่อาศัยและครอบครองเคหสถานโดยปกติสุข
                     การเข้าไปในเคหสถานโดยปราศจากความยินยอมของผู้ครอบครอง หรือการตรวจค้นเคหสถานหรือในที่รโหฐานจะ
            กระท�ามิได้เว้นแต่มีค�าสั่งหรือหมายของศาล หรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ



                     มาตรา ๓๔  บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการเดินทางและมีเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ภายในราชอาณาจักร
                     การจ�ากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง จะกระท�ามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอ�านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อความ
            มั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนการผังเมือง หรือเพื่อสวัสดิภาพของผู้เยาว์

                     การเนรเทศบุคคลผู้มีสัญชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามมิให้บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักร
            จะกระท�ามิได้


                     มาตรา ๓๕  สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครอง
                     การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึง

            สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวจะกระท�ามิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
                     บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ทั้งนี้
            ตามที่กฎหมายบัญญัติ



                     มาตรา ๓๖ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย
                     การตรวจ การกัก หรือการเปิดเผยสิ่งสื่อสารที่บุคคลมีติดต่อถึงกัน รวมทั้ง การกระท�าด้วยประการอื่นใดเพื่อให้ล่วงรู้ถึง
            ข้อความในสิ่งสื่อสารทั้งหลายที่บุคคลมีติดต่อถึงกัน จะกระท�ามิได้เว้นแต่โดยอาศัยอ�านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะ
            เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน





                                     รายงานผลการประเมินสถานการณ์  239  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   235   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245