Page 187 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 187

การเข้าถึงบริการสาธารณสุขของคนพิการ จาก
        ปัญหาความเหลื่อมล�้าของระบบประกันสุขภาพภาครัฐ

        ที่ก�าหนดสิทธิประโยชน์ซึ่งครอบคลุมประเภทความพิการ
        ไม่เท่าเทียมกันของระบบประกันสุขภาพของรัฐ ทั้ง ๓ ระบบ
        โดยเฉพาะคนพิการที่เข้าสู่ระบบการจ้างงาน ซึ่งต้องใช้บริการ
        สาธารณสุขผ่านระบบประกันสังคมที่ให้สิทธิประโยชน์น้อยกว่า
        ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งคนพิการใช้สิทธิในระบบ

        ดังกล่าวก่อนเข้าสู่ระบบการจ้างงาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๑๔
        กันยายน ๒๕๕๙ จึงมีค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๕๘/๒๕๕๙ เรื่อง การรับบริการสาธารณสุขของคนพิการตามกฎหมายว่าด้วย
        หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม เพื่อให้คนพิการที่เข้าสู่ระบบการจ้างงานสามารถใช้บริการ

        สาธารณสุขโดยผ่านระบบประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งให้สิทธิประโยชน์แก่คนพิการมากกว่าได้


                 คณะกรรมการประจ�าอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ มีข้อเสนอแนะเรื่องการให้บริการและข้อมูลด้าน
        สาธารณสุขที่ยังเข้าไม่ถึงคนพิการโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท และรัฐควรอบรมสร้างองค์ความรู้แก่บุคลากรสาธารณสุขเกี่ยวกับ
        สิทธิของคนพิการ รวมถึงเร่งรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อทัศนคติด้านลบการตีตราต่อคนพิการจากความเชื่อทาง

        วัฒนธรรม และการที่คนพิการถูกบังคับให้รับการรักษาทางการแพทย์โดยไม่สมัครใจ อีกทั้งประกันว่า จะมีการเคารพสิทธิของ
        คนพิการในการให้ความยินยอมโดยเสรีและได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนการรักษา



                 การเข้าถึงสิ่งอ�านวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ รัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนแนวทางการสร้าง
        อารยสถาปัตย์ (Universal Design) โครงการชุมชนต้นแบบอารยสถาปัตย์เกาะเกร็ด (Universal Design Community Model)
        และพื้นที่น�าร่อง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดต้นแบบชุมชนที่คนพิการและทุกคนในสังคมสามารถด�ารงชีวิตและเดินทาง
        ได้อย่างอิสระ สะดวก ปลอดภัย การวางมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว โดยออกใบรับรองให้แก่ผู้ประกอบการที่ปรับปรุงสถานที่
        บริการนักท่องเที่ยวได้ตามมาตรฐานที่ก�าหนด การจัดโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอ�านวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพการ

        บริการในภาคขนส่ง ส�าหรับคนพิการให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและปลอดภัย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม
        แนวทางและการขับเคลื่อนดังกล่าวยังไม่สามารถด�าเนินการได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล
        ซึ่งมีคนพิการอาศัยอยู่จ�านวนมาก



                 นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีค�าพิพากษาให้กรุงเทพมหานครจัดท�าลิฟท์และอุปกรณ์อ�านวย
        ความสะดวก ภายใน ๑ ปี นับแต่วันมีค�าพิพากษา ซึ่งได้ครบก�าหนดเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๙ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
        ไม่สามารถด�าเนินการให้แล้วเสร็จตามค�าพิพากษาได้แต่อย่างใด จึงท�าให้เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๐ คนพิการและเครือข่าย
        คนพิการได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจากกรณีที่กรุงเทพมหานครไม่ด�าเนินการสร้างลิฟท์

        อ�านวยความสะดวกแก่คนพิการในการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ตามค�าพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว


                 คณะกรรมการประจ�าอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ มีข้อเสนอแนะรัฐควรให้ความสนใจเชื่อมโยง เรื่อง

        ความสามารถในการเข้าถึงของคนพิการตามอนุสัญญาฯ กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development
        Goals : SDGs) เป้าหมายที่ ๑๑.๒ (จัดให้มีการเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนเข้าถึงได้ ปลอดภัยในราคาที่สามารถจ่ายได้
        ส�าหรับทุกคน พัฒนาความปลอดภัยทางถนนโดยการขยายการขนส่งสาธารณะ และค�านึงเป็นพิเศษถึงกลุ่มคนที่อยู่ในสถานการณ์
        ที่เปราะบาง ผู้หญิง เด็ก ผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย และผู้สูงอายุภายในปี ๒๕๗๓) และเป้าหมายที่ ๑๑.๗ (จัดให้มีการเข้าถึง
        พื้นที่สาธารณะสีเขียว ที่ปลอดภัยครอบคลุมและเข้าถึงได้โดยถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก คนชรา และผู้มีความบกพร่อง

        ทางร่างกาย ภายในปี ๒๕๗๓)


                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  186  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192