Page 178 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 178

ทั้งนี้ ในภาพรวมของการบริหารจัดการงบประมาณแผ่นดินประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๕๙ รัฐบาลจัดสรร
            งบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการมากที่สุดของงบประมาณรายจ่ายของประเทศ แต่โรงเรียนและศูนย์การเรียนชุมชน

            ทั้ง ๑๙ แห่ง ยังคงมิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๖๑ ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
            พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่ก�าหนดให้การบริหารจัดการโรงเรียนและศูนย์การเรียนชุมชนโดยส่วนใหญ่ใช้งบประมาณจากเงินสนับสนุนจาก
            องค์กรเอกชน ภาคประชาสังคม การรับบริจาค และการจัดการของโรงเรียน เช่น การจ�าหน่ายสินค้าท้องถิ่นที่นักเรียนจัดท�า
            และการท�ากิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนกับหน่วยงาน หรือองค์กรภายนอก เป็นต้น



                       ในส่วนของการเข้าถึงในเชิงกายภาพ พบว่า โรงเรียน
            ชุมชนและศูนย์การเรียนชุมชนทุกแห่งตั้งอยู่ในชุมชน ซึ่งมีความ
            สะดวกในการเดินทางมายังโรงเรียนของเด็กและมีความปลอดภัย

            เนื่องจากอยู่ในตัวพื้นที่ชุมชน ซึ่งการก่อตั้งโรงเรียนชุมชนจะมาจาก
            ความต้องการของคนในชุมชนเอง จะมีทั้งองค์กรเอกชนจัดตั้งขึ้น                                                สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเฉพาะ
            จากการส�ารวจความต้องการของคนในชุมชน และองค์กรชุมชนเอง
            จัดตั้งขึ้นเองเนื่องจากไม่มีโรงเรียนในชุมชนท�าให้เด็กและเยาวชนต้อง
            ออกเดินทางไปโรงเรียนต่างหมู่บ้านที่มีระยะทางไกล  รวมถึงการปรับตัวของเด็กที่มีปัญหาในการอยู่ต่างพื้นที่ การจัดตั้งโรงเรียนชุมชน

            มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการขยายโอกาสทางการศึกษาให้ลูกหลานชุมชนได้เรียนหนังสือโดยไม่ต้องห่างไกลจากหมู่บ้าน


                       (๓) ด้านการยอมรับได้ (Acceptability) พบว่า กระทรวงศึกษาธิการก�าหนดนโยบายให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง

            ควบคู่กับหลักสูตรท้องถิ่น ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยหลักสูตรดังกล่าวจะต้องมี  บทที่
                                                                                                                    ๖
            สาระการเรียนรู้ท้องถิ่นเป็นองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่ผู้เรียนควรได้รับ ซึ่งเขตพื้นที่
            การศึกษาหรือหน่วยงานระดับท้องถิ่นพัฒนาขึ้นจากสภาพภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมา สภาพปัญหาชุมชน วัฒนธรรม
            เศรษฐกิจ สังคม การงานอาชีพภูมิปัญญาท้องถิ่น และแนวโน้มการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อปลูกฝังให้เด็กในชุมชนมีความรักและ
            หวงแหนมรดกทางสังคมของบรรพบุรุษ สามารถด�ารงชีวิตและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม



                         โรงเรียนและศูนย์การเรียนชุมชนจะมีการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรแกนกลางควบคู่กับ
            หลักสูตรท้องถิ่นเป็นการบูรณาการร่วมกัน โดยใช้วิถีชีวิตและชุมชนเป็นฐานในการคิดค้นหลักสูตรการเรียนการสอนแล้วน�า

            วิชาการเข้าไปบูรณาการ ซึ่งวิชาการไม่ได้แยกฐานออกจากวิถีชีวิต อีกทั้งจะมีการเรียนทั้งในห้องเรียน นอกห้องเรียน เรียนรู้
            ตามเหตุการณ์ เรียนรู้ตามพิธีกรรม และสถานการณ์จริง โดยมีผู้รู้หรือครูชาวบ้านเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
            มีการเรียนรู้ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ โดยคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนทั้งการก่อตั้งโรงเรียน การคิดค้น
            และพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมและบริบทของชุมชน ซึ่งจะต้องค�านึงถึงความต้องการของคนในชุมชน
            เป็นหลัก ในการเรียนการสอนบางวิชาที่เกี่ยวข้องกับชุมชน จะให้คนในชุมชนหรือครูชาวบ้านเป็นผู้สอน และครูนอกชุมชน

            จะเป็นผู้เชื่อมองค์ความรู้ทั้งหมด พร้อมกับท�าให้เด็กเห็นคุณค่าของชีวิตและภูมิปัญญาในชุมชน


                       (๔) ด้านความยืดหยุ่น (Adaptability) พบว่า กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่

            ชุมชนที่มีผู้ใช้ภาษาถิ่นให้ใช้พหุภาษาตามความเหมาะสมโดยการส่งเสริมการสอนภาษาท้องถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นตาม
            บริบทพื้นที่และกลุ่มชาติพันธ์ุให้ใช้ภาษาท้องถิ่นเป็นสื่อการเรียนการสอนร่วมกับภาษาไทย และให้มีครูทวิ/พหุภาษาท�าการสอน
            ในพื้นที่ชุมชนที่มีนักเรียนพูดภาษาอื่น ๆ เป็นภาษาแม่ ซึ่งโรงเรียนและศูนย์การเรียนชุมชนมีการใช้ภาษาในการเรียนการสอน
            แบบพหุภาษา คือ ภาษาท้องถิ่น ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยจะใช้ภาษาท้องถิ่นควบคู่กับภาษาไทย และสอนภาษาอังกฤษ
            เพิ่มเติม ท�าให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้ง ๓ ภาษา ซึ่งในระยะแรกจะใช้ภาษาท้องถิ่นเป็นหลักใช้เวลาค่อนข้างมากในการสอนให้

            นักเรียนเข้าใจภาษาไทย แต่เมื่อเด็กนักเรียนเข้าใจภาษาไทยแล้วก็จะเรียนรู้ได้รวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น


                                     รายงานผลการประเมินสถานการณ์  177  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183