Page 53 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 53
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
๑๕
ค�าร้องที่ ๖๖/๒๕๕๕: กรณีอ้างว่านักเรียนถูกสั่งพักการเรียนโดยไม่เป็นธรรม
ผู้ร้องได้ร้องเรียนว่าบุตรชายของผู้ร้องเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔/๑ ถูกสั่งพักการเรียน ตั้งแต่วันที่ ๒๕
มกราคม ๒๕๕๕ ผู้ร้องเห็นว่าการสั่งพักการเรียนดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมต่อบุตรผู้ร้อง จึงให้คณะ
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาเห็นว่าเป็นประเด็นเรื่องสิทธิเด็กและสิทธิและเสรีภาพในการ
ศึกษา จึงมอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และ
ความเสมอภาคของบุคคล ด�าเนินการตรวจสอบ (รายงานผลการตรวจสอบ ที่ ๘๖๕/๒๕๕๕) พบว่าบุตรชายของ
ผู้ร้องได้รับการพิจารณาให้ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์การรับสมัคร
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ด้านความประพฤติ โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ปกครองลงนามในหนังสือสัญญา ยินยอมย้าย
สถานศึกษา หากนักเรียนมีปัญหาความประพฤติและลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนานักเรียนที่ต้องการ
ดูแลเป็นพิเศษว่าผู้ปกครองจะให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการดูแลด้านความรู้และความประพฤตินักเรียนให้มี
การพัฒนาที่ดีขึ้น หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนได้ ผู้ปกครองยินดีน�านักเรียนไปเรียนสถานที่เหมาะ
สมต่อไป หากนักเรียนท�าผิดระเบียบวินัยที่ทางโรงเรียนก�าหนดไว้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด นักเรียนต้องพ้นสภาพการเป็น
นักเรียนโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบุตรชายของผู้ร้องมีปัญหาด้านความประพฤติ ก้าวร้าวครูอาจารย์ ไม่เชื่อฟัง
ค�าตักเตือน รวมกลุ่มกับเพื่อนกลั่นแกล้งเพื่อนที่อ่อนแอกว่า ก่อกวนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน เข้าห้องเรียน
ช้า ไม่ตั้งใจเรียน ผลการเรียนต�่า เกรดเฉลี่ย ๐.๙๕ มาจากสาเหตุที่นักเรียนสนใจด้านเครื่องยนต์ เครื่องกล มากกว่า
เรียนวิชาการซึ่งโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองทราบ
ผู้ร้องเห็นว่าการที่บุตรถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งเพื่อน และมีพฤติกรรมก้าวร้าว จนได้ท�าทัณฑ์บนไว้ การกระท�า
ดังกล่าวนั้นก็ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระท�าผิดจริงและเป็นเพียงการหยอกล้อ การถูกพักการเรียนย่อม
ส่งผลต่อคะแนนเก็บ คะแนนท�ารายงาน ท�าให้นักเรียนต้องซ�้าชั้นเป็นการเสียเวลา ส่งผลต่อสภาวะจิตใจเด็ก
ต่อมา เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ ผู้ร้องได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าได้ให้บุตรชายลาออกจากโรงเรียนเนื่องจาก
บุตรชายเกิดความเครียดจากการที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอนแบบเป็นการเฉพาะตัว ท�าให้ไม่อยากไปเรียน และ
ให้สมัครเข้าเรียนระดับ ปวช. ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแล้ว
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้พิจารณาแล้วชี้แจงมายังคณะอนุกรรมการฯ ว่า
• ประเด็นสั่งพักการเรียนบุตรชายผู้ร้องนั้น โรงเรียนได้แก้ไขปัญหาโดยการจัดให้นักเรียนมาเรียนกับรองผู้อ�านวย
การฝ่ายวิชาการ และให้มาสอบปลายภาคตามที่โรงเรียนก�าหนด
• ประเด็นที่โรงเรียนให้นักเรียนลาออกนั้น ผู้ปกครองได้ทราบถึงปัญหาด้านพฤติกรรมของนักเรียน และได้ท�า
บันทึกตกลง ต่อมา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากโรงเรียนแล้ว จึงไม่สามารถด�าเนินการเป็นอย่างอื่นได้ ทางคณะกรรมการ
ส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบ
คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และความเสมอภาคของ
บุคคล พิจารณาแล้วเห็นว่า ตาม พระรำชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ มำตรำ ๒๒ บัญญัติว่า
“การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้ค�านึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นส�าคัญและไม่ให้มี กำรเลือกปฏิบัติโดย
ไม่เป็นธรรม
52