Page 58 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 58
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
แห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งด�าเนินการตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงทั้งจากฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล มีมติเห็นว่า
(รายงานผลการพิจารณา ที่ ๑๙๔/๒๕๕๗) การที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าบุตรสาวไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาเป็น
นักเรียนดุริยางค์ทหารบก เนื่องจากมีปานบนใบหน้านั้น จำกกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ำ กำรที่บุตรสำวของ
ผู้ร้องไม่ผ่ำนกำรสอบคัดเลือกนั้นเป็นผลจำกคะแนนสอบ ไม่เกี่ยวข้องกับปำนบนใบหน้ำแต่อย่ำงใด จึงไม่ปรากฏ
ว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุตรสาวผู้ร้อง แต่เพื่อยุติข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น คณะอนุกรรมการฯ ได้จัดให้ผู้ร้องและ
ผู้ถูกร้องเจรจาไกล่เกลี่ยกันจนได้ข้อยุติ โดยผู้บัญชาการดุริยางค์ทหารบก (ผบ.คย.ทบ.) ยินดีให้ความช่วยเหลือบุตร
สาวของผู้ร้อง ดังนี้
๑) ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น จ�านวน ๒๐,๐๐๐ บาท
๒) ในการรักษาใบหน้าของลูกสาวผู้ร้องแต่ละครั้งต่อเนื่องเป็นระยะเวลา ๑ ปี นับจากกันยายน ๒๕๕๖ -
๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ผบ.ดย.ทบ. รับว่าจะจ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกินครั้งละ ๓,๐๐๐ บาท โดยต้องน�า
ใบเสร็จมาเบิก
๓) ผบ.ดย.ทบ. รับว่าจะช่วยเหลือเรื่องการประสานการเรียนดนตรีของบุตรสาวผู้ร้องและสนับสนุนค่าใช้จ่าย
เรียนดนตรีสัปดาห์ละ ๑ วัน ๆ ละ ๒ ชั่วโมง ๖๐๐ บาทต่อวัน เพื่อพัฒนาความสามารถของบุตรสาวผู้ร้อง
จนถึงสิ้นปี ๒๕๕๖
ผู้ร้องยินดีและท�าบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐาน ตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงเห็นควรให้ยุติเรื่อง
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยดุริยางค์ทหารบก พ.ศ.
๒๕๕๓ ตามผนวกข้อ ๓ เกี่ยวกับบัญชีโรคหรือความผิดปกติหรือความพิการซึ่งขัดต่อการเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารบก
ข้อย่อย ๓.๑.๑.๓ ซึ่งระบุว่า “แผลเป็นหรือปำนที่หน้ำมีเนื้อที่ตั้งแต่ ๑.๕ ตำรำงนิ้วขึ้นไป หรือมีควำมยำวมำก
จนดูหน้ำเกลียด” เป็นระเบียบที่อำจท�ำให้เกิดกำรเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม จึงมีความเห็นเสนอไปยังกองทัพบก
เพื่อพิจารณาทบทวนระเบียบดังกล่าวให้เหมาะสม และสอดคล้องกับหลักการความเสมอภาคซึ่งรับรองไว้ตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๐ ต่อไป
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาค�าร้องและความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ แล้วเห็นว่า การ
ที่บุตรสาวของผู้ร้องไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเป็นผลจากคะแนนสอบข้อเขียน มิใช่เพราะเหตุที่มีปานบนใบหน้า
บุตรสาวผู้ร้องจึงไม่ถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการศึกษาแต่อย่างใด ประกอบเพื่อยุติความขัดแย้ง ผู้ร้องและผู้ถูก
ร้องได้เจรจาไกล่เกลี่ยกันจนได้ข้อยุติ และได้จัดท�าบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐานแล้ว ตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราช
บัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงไม่มีการกระท�าละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น
กรณีระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยดุริยางค์ทหารบก พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามผนวกข้อ ๓ เกี่ยวกับบัญชีโรคหรือความ
ผิดปกติ หรือความพิการซึ่งขัดต่อการเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารบก ข้อย่อย ๓.๑.๑.๓ ซึ่งระบุว่า “แผลเป็นหรือ
ปานที่หน้ามีเนื้อที่ตั้งแต่ ๑.๕ ตารางนิ้วขึ้นไป หรือมีความยาวมากจนดูหน้าเกลียด” คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติเห็นว่า อำจท�ำให้เกิดกำรเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะไปยังกองทัพบก เพื่อ
พิจำรณำทบทวนระเบียบดังกล่ำว ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับหลักความเสมอภาคซึ่งรับรองไว้ตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๐ ต่อไป
57