Page 34 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 34
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
จากกรอบแนวคิดความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ และมิติของการเลือก
ปฏิบัติ จะเห็นได้ว่า เมื่อมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน (Distinction / Differentiation) เกิดขึ้น และ
น�าข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวิเคราะห์ภายใต้กรอบของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยทั้งสอง
ดังกล่าวนั้น จะท�าให้สามารถจ�าแนกว่ากรณีใดเป็นกรณีของการเลือกปฏิบัติโดยตรง หรือการเลือกปฏิบัติโดยอ้อม
หรืออาจไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ การวิจัยนี้ขยายกรอบแนวคิดดังกล่าวออกไปอีก เนื่องจากกฎหมายระหว่าง
ประเทศและกฎหมายต่างประเทศยังได้มีการก�าหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าการปฏิบัตินั้นเป็นเพียงการปฏิบัติ
แตกต่างกันอันสามารถท�าได้ หรือเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อกฎหมาย โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีตัวอย่างเช่น หลักขอบ
แห่งดุลพินิจ (Margin of Appreciation) การชั่งน�้าหนักกับผลประโยชน์อื่น มาตรการยืนยันสิทธิเชิงบวก (Affirmative
Action) เป็นต้น
เมื่อพิจารณาตามกรอบแนวคิดที่ขยายความออกมานี้ ท�าให้สามารถจ�าแนกสภาพข้อเท็จจริงหรือ
การปฏิบัติที่มีปัญหาว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่นั้น ได้ ๒ กรณี คือ
การปฏิบัตินั้นเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน แต่ยังไม่เข้าองค์ประกอบของการเลือกปฏิบัติตาม
กฎหมายสิทธิมนุษยชน
การปฏิบัตินั้นเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน และเข้าองค์ประกอบของการเลือกปฏิบัติตามกฎหมาย
สิทธิมนุษยชน ซึ่งโดยหลักแล้ว การปฏิบัติที่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ (Discrimination) นี้ จัดเป็น
การปฏิบัติที่ขัดต่อหลักความเสมอภาคหรือความเท่าเทียมกัน
ด้วยเหตุนี้ ประเด็นปัญหาส�าคัญอันจะท�าการศึกษาต่อไปก็คือ เมื่อมีการปฏิบัติที่แตกต่างกันขัดต่อ
หลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนแล้ว กฎหมายภายในของประเทศไทยมีการก�าหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการปฏิบัติแตกต่างกัน
ซึ่งถือเป็น “การเลือกปฏิบัติ” อย่างไรบ้าง รวมทั้งเกิดประเด็นค�าถามส�าหรับการวิจัยนี้อีกหลายประเด็น เช่น กฎหมาย
ที่มีผลบังคับอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมและเพียงพอแล้วหรือไม่กับการน�ามาปรับใช้เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ที่ได้รับ
การปฏิบัติแตกต่างอันจัดอยู่ในความหมายของการเลือกปฏิบัติ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ บุคคลนั้นไม่ได้รับความเสมอภาค
หรือเท่าเทียมกันนั่นเอง โดยสามารถจ�าแนกศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ ของการเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ ยังมี
ประเด็นเกี่ยวกับรูปแบบของกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติและส่งเสริมหลักความเท่าเทียมกันในประเทศต่าง ๆ
ว่ามีรูปแบบ ลักษณะ องค์ประกอบ อย่างไร และกฎหมายไทยที่มีผลบังคับใช้อยู่นั้น จัดอยู่ในรูปแบบใด และควรมีการ
ปรับปรุงพัฒนาอย่างไรหรือไม่
จากกรอบแนวคิดการวิจัยดังกล่าวข้างต้น อาจน�ามาสร้างกรอบการศึกษาภายใต้ปัจจัยต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้อง ดังจะเห็นได้จากแผนภาพดังต่อไปนี้
33